ข้อควรระวังหากไม่ติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัยสำหรับร้านอาหาร

          ร้านอาหารนั้นมีความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัยค่อนข้างมาก เพราะเป็นสถานที่ที่มีการประกอบอาหารทำให้มีความร้อนสะสมค่อนข้างสูง โดยเฉพาะพื้นที่ห้องครัวที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ เช่น เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า ที่มีการลุกไหม้ขณะทำอาหารอยู่เสมอ และเมื่อเกิดเพลิงไหม้จะทำให้ระงับเหตุได้ยากจนลุกลามไปยังส่วนอื่นๆของร้านอย่างรวดเร็วส่งผลเสียหายใหญ่หลวง ดังนั้นผู้ประกอบการร้านอาหารจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับระบบป้องกันอัคคีภัย ซึ่งทางบริษัท สมาร์ท เบสท์บายส์ จะมาบอกถึงแนวทางการวางระบบป้องกันอัคคีภัยสำหรับร้านอาหาร รวมไปถึงข้อควรระวังหากละเลยความสำคัญของการป้องกันเพลิงไหม้ที่อาจจะสร้างความสูญเสียให้กับธุรกิจของคุณ

สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในร้านอาหาร

1. ระบบแก๊สรั่ว

         ในพื้นที่ทำครัวของร้านอาหารนั้นจะมีระบบแก๊สหุงต้มอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากจำเป็นต้องมีการประกอบอาหารเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ทำให้ต้องใช้อุปกรณ์ประเภทเตาแก๊สเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะขาดการบำรุงรักษาจนเกิดความชำรุดจนทำให้แก๊สรั่ว เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้

2. ไฟฟ้าลัดวงจร

      นับเป็นสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นได้บ่อย เพราะในร้านอาหารนั้นก็จะมีระบบไฟฟ้าสำหรับการใช้งานเอาไว้ และมีการใช้กระแสไฟฟ้าในปริมาณที่มาก ร้านอาหารบางแห่งไม่มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานหรือใช้งานระบบไฟฟ้ามานานและไม่ได้รับการบำรุงรักษาเดินสายไฟใหม่ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดเพลิงไหม้ได้

3. มีวัสดุติดไฟอยู่เป็นจำนวนมาก

        ร้านอาหารนั้นจะมีวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหาร เช่น น้ำมัน ที่ติดไฟง่าย หรือมีกองวัสดุเก็บเอาไว้ เช่น ถ้วยชามพลาสติก ลังกระดาษบรรจุภัณฑ์ใส่สินค้าที่ไปซื้อมาใช้งานสำหรับร้านอาหารกองรวมกัน วัสดุเหล่านี้ติดไฟง่าย หากเกิดเพลิงไหม้ก็จะทำให้ลุกลามได้เร็วกว่าปกติ

4. อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเกิดความชำรุด

     ร้านอาหารนั้นจะมีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เตาอบ เตาไมโครเวฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆสำหรับใช้งานอยู่ ซึ่งการชำรุดของอุปกรณ์เหล่านี้ก็ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ได้เช่นกัน

อันตรายจากการละเลยระบบป้องกันอัคคีในร้านอาหาร

1. เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

เพลิงไหม้ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อร่างกาย เช่น เกิดการบาดเจ็บ พิการ หรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทั้งในตัวของพนักงานรวมไปถึงลูกค้าที่มาใช้บริการ

2. ทรัพย์สินเสียหาย

เพลิงไหม้นั้นจะทำให้ทรัพย์สินที่อยู่ภายในเกิดความเสียหาย ทั้งอุปกรณ์ในครัว โต๊ะ เก้าอี้ หรือทรัพย์สินอื่นๆของทางร้าน ซึ่งทำให้ต้องเสียงบประมาณในการซื้อใหม่

3. โครงสร้างเกิดความเสียหาย

หากเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่มีความรุนแรงจะทำให้โครงสร้างอาคารเกิดการทรุดตัวจนถล่มลงมาได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้ว เจ้าของร้านอาหารก็จะสูญเสียร้านไปจนหมด การเริ่มต้นสร้างร้านใหม่ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ยากจนเกินไป

 

การติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัยสำหรับร้านอาหาร

ร้านอาหารนั้นถูกกำหนดว่าต้องมีระบบป้องกันอัคคีภัยที่ได้มาตรฐาน ทั้งนี้เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้จะได้มีอุปกรณ์ในการระงับเหตุหรือมีมาตรการป้องกันภัยสำหรับผู้มาใช้บริการ ซึ่งเจ้าของร้านอาหารสามารถนำอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการป้องกันเพลิงไหม้มาติดตั้งเพื่อใช้งานได้ทันท่วงที ดังนี้

1. ถังดับเพลิง

เป็นอุปกรณ์ป้องกันเพลิงไหม้ที่ทุกร้านอาหารต้องมีติดตั้งเอาไว้ และต้องติดตั้งเอาไว้อย่างเพียงพอต่อการใช้งานกระจายไปตามจุดต่างๆ เช่น ห้องครัว พื้นที่บริเวณห้องอาหาร ลานจอดรถ โดยหลักการติดตั้งถังดับเพลิงนั้นต้องติดตั้งอยู่ในจุดที่มองเห็นได้ง่าย มีป้ายบอกอย่างชัดเจน ไม่มีสิ่งกีดขวางตู้เก็บเครื่องดับเพลิงเพื่อให้ง่ายต่อการนำไปใช้งาน

โดยถังดับเพลิงสำหรับร้านอาหารนั้น ส่วนใหญ่จะใช้ถังดับเพลิงชนิดสารเคมีแห้ง เป็นถังสีแดงที่นิยมใช้กันโดยทั่วไป เนื่องจากมีความอเนกประสงค์ในการใช้ดับเพลิงได้เกือบทุกชนิด มีราคาถูก สามารถซื้อไปติดตั้งได้จำนวนมาก ซึ่งการใช้งานถังดับเพลิงควรต้องหมั่นดูแลให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยถังประเภทนี้มีอายุการใช้งาน 3-5 ปี เมื่อครบอายุการใช้งานแล้วต้องเปลี่ยนใหม่

2. สปริงเกอร์ดับเพลิง ( Sprinkler )

สปริงเกอร์ดับเพลิงหรือหัวกระจายน้ำอัตโนมัติ ถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ระงับเหตุเพลิงไหม้เบื้องต้นได้เป็นอย่างดี มีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับ โดยจะมีระบบทำงานแบบอัตโนมัติเมื่อเกิดเพลิงไหม้และมีความร้อนของอุณหภูมิสูงที่กำหนดไว้ การติดตั้งสปริงเกอร์ดับเพลิงเอาไว้ ทั้งในส่วนของห้องครัว พื้นที่ทานอาหารแบบมีหลังคา จะช่วยควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆได้ครอบคลุมมากกว่า