แจกบทความฟรี
บ้านอัจฉริยะ โอกาสทางธุรกิจของโครงการอสังหาริมทรัพย์
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเข้ามาของเทคโนโลยี IoT หรือ Internet of Things จะเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของทุกคนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย ที่เน้นในเรื่องของความสะดวก สบายและปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน บ้านอัจฉริยะ จึงเป็นตัวเลือกในลำดับต้น ๆ ของคนสมัยใหม่ที่ชื่นชอบเรื่องของเทคโนโลยีเกี่ยวกับบ้าน เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้อย่างลงตัว
บ้าน Smart Home คือ
บ้านที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวก ทุก ๆ อย่าง มีความทันสมัย มีการบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ผ่านการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ควบคุม เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งการได้ ทั้งจากภายในบ้าน (Local) และนอกบ้าน (Internet) โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน หลัก ๆ ได้แก่
- ระบบเครือข่าย โดยแบ่งออกเป็นไร้สาย กับ มีสาย รวมไปถึงการเชื่อมต่อให้อุปกรณ์จากภายนอกสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายในบ้านได้ เช่น อินเทอร์เน็ต
- ระบบควบคุม หรืออุปกรณ์สำหรับควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ภายในบ้าน ให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ผ่านแอปพลิเคชัน
- อุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกับระบบควบคุม
บ้านสมาร์ทโฮมแนวโน้มที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
จากการคาดการณ์ของ IDC ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยด้านการตลาดของสหรัฐฯ พบว่าในปี 2022 ที่จะมาถึงนี้จะมีอุปกรณ์เกี่ยวกับ smart home ออกสู่ตลาดและเติบโตมากกว่า 1,300 ล้านเครื่องและจะโตเพิ่มเป็นเท่าตัวในช่วง 2-3 ปี ถัดจากนี้ โดยอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องจะเป็นในเรื่องของความสะดวกสบายในและ ระบบความปลอดภัย ในการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นหลัก
ส่งผลให้ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ มีการนำอุปกรณ์ บ้านอัจฉริยะ เข้ามาใช้งานมากขึ้น เพื่อชูจุดขายให้กับลูกค้าและเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่สินทรัพย์ที่กำลังจะขายด้วย เรียกว่าได้ประโยชน์ทั้งขึ้นทั้งล่องเลยทีเดียว นอกจากนี้โรงแรมที่พักบางแห่งเริ่มมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อสร้างภาพลักษณ์และความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนด้วย เช่น กล้องวงจรปิด, Digital Doorlock ระบบความปลอดภัย อื่น ๆ อย่าง Smoke Detector เป็นต้น
Smart Gateway ศูนย์รวมการสั่งการเพื่อความเป็นหนึ่ง
ภายหลังจากการเข้ามาของ IoT จึงทำให้ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายแบรนด์ ต่างเปิดตัวบรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ททีวี, เครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ, ตู้เย็นอัจฉริยะ รวมไปถึง หลอดไฟอัจฉริยะ
เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวก สบาย ซึ่งบ้านแต่ละหลังก็จะมีสินค้าหลากหลายแบรนด์จึงทำให้การควบคุมและการใช้งานจากที่จะช่วยให้สะดวก สบายในการใช้งานกับต้องมาลำบาก ด้วยการโหลดแอปพลิเคชันของเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิด จึงเกิดแนวคิดในการผลิตอุปกรณ์ SMART GATEWAY ขึ้น ด้วยอุปกรณ์เพียงเครื่องเดียวสามารถที่จะควบคุม สั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าสมาร์ทโฮมต่าง ๆ ได้มากกว่า 50 เครื่อง ด้วยแอปพลิเคชันเพียงแอปเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นทีวี ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ พัดลม หรือแม้แต่ กล้องวงจรปิด Smart Gateway สามารถควบคุมสั่งการ เปิด-ปิด ได้ทั้งหมดไม่เพียงแต่ภายในบ้านเท่านั้น แม้แต่อยู่นอกบ้านก็สามารถที่จะรีโมทเข้ามาสั่งการทุกอย่างได้ด้วยการเชื่อมต่อผ่านระบบอินเทอร์เน็ต นับเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมาก
เปลี่ยนบ้านเก่าให้กลายเป็น บ้านอัจฉริยะ ได้ง่าย ๆ
ด้วยเทคโนโลยี Smart Gateway และ Remote Control แบบไร้สาย สามารถที่จะเปลี่ยนบ้านเก่าให้กลายเป็นบ้านอัจฉริยะหรือ smart home ได้ง่าย ๆ สำหรับใครที่มีบ้านและ ไม่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์สมาร์ทโฮมมาตั้งแต่เริ่มต้น สามารถที่จะซื้อ Smart Gateway ไปใช้งานได้ โดยทำการเชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฮมต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชันของ Smart Gateway โดยมีรีโมทอัจฉริยะเป็นสั่งการก็สามารถที่จะเปลี่ยนบ้านเก่า ๆ ให้เป็นบ้านที่ทันสมัยได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ ปลั๊กไฟอัจฉริยะ แค่เพียงนำเครื่องใช้ไฟฟ้าปกติมาเสียบต่อปลั๊กไฟดังกล่าว ก็จะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นกลายเป็นอุปกรณ์สมาร์ทโฮม สั่งงานผ่านแอปพลิเคชันได้เช่นกัน เหมาะสำหรับบ้านเก่าที่ยังไม่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์สมาร์โฮมหรือคนที่ต้องการ รีโนเวทบ้านเก่า เพื่อขายต่อและต้องการเพิ่มมูลค่าของบ้านเดิมให้สูงขึ้นได้
ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คนหันมาใช้อุปกรณ์ Smart Home มากขึ้น
1.เทรนที่กำลังจะเปลี่ยนไป
หากคุณได้มีโอกาสไปเดินตามห้างสรรพสินค้า ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ จะสังเกตได้เลยว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละรุ่นราคาค่อนข้างถูกลงมากและตกรุ่นเร็วขึ้น นั่นเพราะเทคโนโลยีมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามีการพัฒนาและอัปเกรดความสามารถมากขึ้น เช่น สมาร์ททีวี เดิมทีที่มีเพียงช่องต่อสาย LAN ก็พัฒนามาเป็นรองรับการทำงาน Wifi และการรับสัญญาณจากระบบทีวีดิจิทัลได้มากขึ้น บางลงและราคาถูกลงกว่าเดิมเกือบเท่าตัว หรือตู้เย็นที่มีการนำระบบ Shelf life มาใช้งาน ทำให้เจ้าของได้รู้ว่าสินค้าที่แช่ภายในจะหมดอายุเมื่อใด หรือ มีเหลืออยู่น้อยลงก็แจ้งเตือนให้สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านหน้าตู้เย็นได้ หรือ ระบบไฟอัจฉริยะ ที่มาพร้อมความประหยัด จะส่องสว่างเมื่อมีการเคลื่อนไหวเท่านั้น หากพบว่าไม่มีการเคลื่อนไหวก็จะดับลงเองอัตโนมัติ เป็นต้น
2.ราคาที่ถูกลง
หากย้อนไปเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับเลยว่าอุปกรณ์สมาร์ทโฮมทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น กล้องวงจรปิด, ระบบตรวจจับ Motion Sensor และอื่น ๆ ล้วนมีราคาค่อนข้างสูง น้อยคนนักที่จะเลือกใช้งาน แต่ในปัจจุบันราคาสินค้าเหล่านั้นมีมากมายหลายแบรนด์ให้เลือกใช้ มีการแข่งขันด้านราคา ทำให้ผู้บริโภคจับต้องได้มากขึ้นและสินค้ามีคุณภาพและความสามารถมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ดังจะเห็นได้จาก กล้องวงจรปิด แต่เดิมจะต้องใช้งานร่วมกับ DVR เพื่อควบคุมและบันทึกข้อมูลลงในเครื่อง แต่ปัจจุบันมีกล้องวงจรปิดไร้สาย แยกอิสระ สามารถที่จะบันทึกข้อมูลลงในเมมโมรี่การ์ดที่มีขนาดเล็กแต่มีความจุมากกว่าหรือระบบคลาวด์ ที่ไม่สามารถทำลายหลักฐานได้
3.พฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย จึงทำให้พฤติกรรมค่อย ๆ เปลี่ยนไป ใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้นและไม่ยุ่งยาก เช่น Digital Doorlock หรือประตูอัจฉริยะ ที่ไร้รูกุญแจ หากต้องการจะเข้าไปข้างในจะต้องใช้คีย์การ์ด หรือรหัสผ่านเท่านั้นจึงจะสามารถเปิดประตูได้ บางรุ่นในระบบสแกนลายนิ้วมือ หรือการตรวจจับใบหน้า หากข้อมูลไม่ตรงกับที่บันทึกประตูก็ไม่สามารถที่จะเปิดออกได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม หรือโรงแรมชั้นนำ
4.สร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัย
ด้วยเทคโนโลยี Motion Sensor ซึ่งเป็น ระบบความปลอดภัย ตรวจจับการเคลื่อนไหว สามารถสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัยภายในบ้านได้ โดยเฉพาะในยามวิกาลหากมีการบุกรุกจากผู้ที่ไม่พึงประสงค์ Motion Sensor ตรวจจับได้จะส่งสัญญาณไปยังตู้ควบคุม เพื่อส่งสัญญาณเตือนให้เจ้าของบ้านได้ยิน รวมถึงส่งสัญญาณไปเข้าโทรศัพท์มือถือผ่านอินเทอร์เน็ตได้ นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่เจ้าของบ้านนำมาติดตั้งเพื่อป้องกันการบุกรุกได้ เช่น เซ็นเซอร์ประตู หน้าต่าง ทางเดิน ซึ่งสามารถที่จะเชื่อมต่อกับ หลอดไฟอัจฉริยะ ทำการส่องสว่างเฉพาะจุด เมื่อพบการเคลื่อนไหวได้อีกด้วย
5.การบริการหลังการขาย
เป็นที่แน่นอนว่าอุปกรณ์สมาร์ทโฮมในอนาคตมีแนวโน้มที่จะออกสู่ตลาดกันมากขึ้น สิ่งที่หลายคนกังวลนั่นคือสินค้าที่ด้อยคุณภาพ การรับประกันและการบริการหลังการขาย เพราะถือเป็นหัวใจหลักของการจำหน่ายสินค้าดังกล่าว เพราะแม้สินค้าจะมีราคาถูกเพียงใด หากไร้ซึ่งคุณภาพ การรับประกันและบริการหลังการขายที่ดีแล้ว ย่อมส่งผลต่อสินค้าในแบรนด์นั้น ๆ เช่นกัน เพราะอย่าลืมว่าปัจจุบันเป็นยุคที่การสื่อสารไร้พรมแดนและข่าวย่อมเผยแพร่ได้ไวกว่าเสมอ
จะเห็นว่าในปัจจุบันมีอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะจำนวนมาก ที่ผลิตและจำหน่ายในท้องตลาด ผู้บริโภคจะต้องพิจารณาถึงความสามารถและความเหมาะสมของอุปกรณ์สมาร์ทโฮมนั้น ๆ การติดตั้ง ตลอดจนการบริการหลังการขาย โดยเฉพาะการซื้อกับบริษัทที่มีชื่อเสียง เปิดให้บริการมามากกว่า 10 ปี อย่าง smartsafetyservice.com หนึ่งในผู้จำหน่ายอุปกรณ์สมาร์ทโฮม ที่ให้บริการแบบครบวงจร ที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งเลือกใช้
เนื่องจากมีอุปกรณ์และการใช้งานที่หลากหลาย เช่น Smart Gateway อุปกรณ์สำหรับควบคุมการทำงานของ smart device ต่าง ๆ, อุปกรณ์ความปลอดภัยอัจฉริยะ อย่าง Smoke Detector, Gas Detector, Motion Sensor ที่ช่วยแจ้งเตือนภัยอันตรายของเจ้าของบ้าน, อุปกรณ์ความปลอดภัยอื่น ๆ อย่างกล้องวงจรปิด, หลอดไฟอัจฉริยะ ระบบประตูและกริ่งอัจฉริยะ สำหรับใครที่สนใจสามารถที่จะติดต่อ smartsafetyservice.com ได้โดยตรง