รู้จักเทคโนโลยีอัจฉริยะ Smart Home สำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุ

              เทคโนโลยีอัจฉริยะ เป็นสิ่งที่เราคุ้นหูได้ยินกันบ่อยขึ้น เป็นบ้านที่มีความล้ำหน้าของเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์เรา ของผู้อยู่อาศัยและสมาชิกภายในบ้าน ให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต รวมไปถึงการช่วยในการอยู่อาศัยในบ้านนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยนั่นเอง

             หลายคนยังคิดว่า smart home เป็นนวัตกรรมที่อยู่อาศัยของคนในยุคดิจิตอลหรือคนรุ่นใหม่เท่านั้น เริ่มแรกใครมีบ้านที่มีอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นระบบอัตโนมัติก็เป็นที่กล่าวขวัญพูดถึงกัน แต่จนถึงตอนนี้ เทคโนโลยีอัจฉริยะนี้จะค่อย ๆ กลายเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามากขึ้น เห็นได้จากผู้ประกอบการที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านแนวราบและคอนโด ต่างก็ออกแบบให้ที่อยู่อาศัยมีเทคโนโลยีอัตโนมัติตัวช่วยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการเลือกซื้อบ้านที่ตนเองและครอบครัวจะอาศัยอยู่ได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย

          ยิ่งโดยเฉพาะครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยนั้น การออกแบบบ้านให้เป็น smart home หรือเลือกใช้อุปกรณ์ที่เป็นอัตโนมัติต่าง ๆ จะช่วยตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ได้ดีมากขึ้น บ้าน smart home ที่ตอนกลางวันมีเฉพาะผู้สูงอายุ เราอาจไม่ต้องพึ่งพึงผู้ดูแลผู้สูงอายุมากนัก หากอุปกรณ์ภายในบ้านเป็นแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้นกว่าเดิม

          บ้านที่จะเรียกว่า smart home ได้ ต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่าง คือ อุปกรณ์อัจฉริยะ (Smart Device) ระบบเครือข่ายอัจฉริยะ (Smart Home Network) และ ระบบควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Control System) มีข้อมูลเชิงเศรษฐกิจระบุไว้ว่า ภายในปี 2025 นี้ มูลค่าของตลาด Smart Home ของโลกจะสูงถึง 263,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสัดส่วนมากที่สุดจะเป็นแอพพลิเคชั่นที่เน้นเรื่องความสะดวกสบาย รองมาเป็นการจัดการความปลอดภัยอัจฉริยะ การจัดการเรื่องสุขภาพ  การจัดการด้านพลังงาน และการให้ความบันเทิง

smart home หรือ เทคโนโลยีอัจฉริยะภายในบ้านมีข้อดีหลายอย่าง โดยเฉพาะครอบครัวใหญ่ที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย ดังนี้

• ความสะดวกสบาย เช่น สั่งเปิดปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านผ่านโทรศัพท์มือถือ ทำความสะอาดบ้านด้วยหุ่นยนต์ดูดฝุ่น สั่งเปิดปิดอุปกรณ์ผ่านเสียง กำหนดเวลาการเปิดปิดหลอดไฟหน้าบ้าน ฯลฯ 
• ความปลอดภัย เช่น การติดตั้ง cctv ที่สามารถบันทึกบุคคลที่ผ่าน กล้องวงจรปิด เพื่อดูย้อนหลังได้ การติดตั้งเครื่อง Smoke Detector จับความร้อน จับอุณหภูมิ หรือ Gas Detector  เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ หรือ การสั่งปิดล็อคประตูหน้าต่างอัตโนมัติเวลาไม่มีคนอยู่บ้าน ฯลฯ วันหยุดเทศกาลสามารถไปท่องเที่ยวไกลบ้านได้โดยไม่ต้องห่วง ฝากบ้านไว้กับ smart home ได้ หรือหากจำเป็นต้องปล่อยผู้สูงอายุอยู่บ้านตามลำพังโดยมีผู้ดูแล ก็หมดห่วงขึ้น สามารถลิงก์ดูกล้องผ่านมือถือได้ตลอด หากมีอันตรายก็จะมีสัญญาณแจ้งเตือนผ่านมือถือไปได้ทันที
• การประหยัดพลังงาน เช่น การเปิดปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าอัตโนมัติอย่างเครื่องปรับอากาศ หลอดไฟ หรือ อุปกรณ์ประปา ก๊อกน้ำ ทำให้ช่วยประหยัดไฟและน้ำได้ ฯลฯ
• การประหยัดเวลา เมื่อทุกอย่างภายในบ้านเป็นอัตโนมัติ ทำให้ผู้อาศัยมีประหยัดเวลาที่ต้องคอยทำอะไรต่อมิอะไร มีเวลาไปพักผ่อน ทำงานอดิเรก หรือทำสิ่งที่อยากทำได้มากขึ้น

อุปกรณ์ smart home ที่บ้านรุ่นใหม่นิยมติดตั้งกันมีมากมาย ขอยกตัวอย่างดังนี้

เครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติ

             เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ระบบอัจฉริยะก่อนก็มี Smart TV หรือ Smart Air Conditioner สามารถเลือกเวลาเปิดปิดได้อัตโนมัติ ถ้าเรานอนหลับคาทีวีก็ไม่ต้องกังวลว่าทีวีจะเปิดถึงเช้าหากเราตั้งเวลาปิดเอาไว้ แอร์ก็เช่นกันสามารถตั้งเวลาเปิดปิดได้ แอร์หลายรุ่นปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมในบ้านแบบอัตโนมัติ ปัจจุบันมี Smart Appliances เกิดขึ้นอีกมาก เช่น ตู้เย็นแบบมี Smart ฟังก์ชั่น อย่างของ LG ล่าสุดมีระบบ Twice knocks เคาะหน้าจอ 2 ครั้ง จะสามารถมองเห็นสิ่งของที่อยู่ในตู้เย็นได้โดยไม่ต้องเปิดประตูตู้เย็น มีระบบกรองอากาศภายในช่วยลดปัญหากลิ่นอับในตู้เย็น หรือ เครื่องปั่นน้ำผลไม้ที่ล่าสุด เรียกว่าเป็นโถปั่นอัจฉริยะสามารถล้างโถได้เองอัตโนมัติ หรือ เครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะเป็นหุ่นยนต์ สามารถตั้งเวลาเปิดปิดเอง ให้ทำความสะอาดในขณะที่เราไม่อยู่บ้านได้ กลับถึงบ้านก็สะอาดเรียบร้อย ในส่วนของผู้สูงอายุเครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติช่วยได้มาก หากผู้สั่งการสามารถกดปุ่มเปิดปิดให้ปู่ย่าตายายใช้ชีวิตประจำวันในบ้านได้โดยสะดวก

ระบบล็อตประตูอัตโนมัติ

           ที่สามารถสั่งเปิดปิดล็อคประตูได้โดยผ่านแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ เวลามีคนมากดกริ่งหน้าประตูสามารถคุยตอบโต้กับเจ้าของบ้านผ่านทางกล้องที่ติดตรงประตูได้ สามารถแชร์ให้คนที่เราอนุญาตมีสิทธิเข้าบ้านได้ รวมถึงประตูอัตโนมัติที่ใช้วิธีการตรวจจับใบหน้าของสมาชิกในบ้านเพื่อเปิดปิดประตูให้อัตโนมัติ หากกลับบ้านดึกก็ไม่ต้องเป็นห่วงผู้ใหญ่ในบ้าน สามารถเช็คผ่านมือถือเพื่อสั่งปิดล็อกประตูเพื่อความปลอดภัยได้ตลอดเวลา

ระบบการจอดรถ

           เมื่อขับรถกลับถึงบ้าน สามารถกดสั่งเปิดประตูโรงรถอัตโนมัติ และสั่งเปิดไฟที่โรงรถ หรือติดหลอดไฟที่เปิดเองแบบอัตโนมัติเมื่อมีรถเข้ามา โดยเราไม่ต้องจอดรถแล้วลงมาเปิดประตูเปิดไฟเอง ผู้ใหญ่ในบ้านไม่ต้องห่วงลูกหลานที่ทำงานกลับดึกอีกต่อไป ไม่ต้องห่วงหรือนั่งรอเปิดประตูให้ตอนดึก ๆ

ระบบเตือนภัย

           หรือ Smart alarm เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เน้นเรื่องความปลอดภัย เหมาะกับทุกคนโดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุด้วย กรณีเกิดเหตุร้าย เช่น ควันไฟ ท่อน้ำรั่ว ไฟรั่ว ไฟช็อต ไฟไหม้ ระบบเตือนภัยจะทำงาน ช่วยให้สามารถแก้ไขหรือหนีภัยได้ทัน ตัวอย่างอุปกรณ์ก็เช่น ตัว เซ็นเซอร์อุณหภูมิ / Smoke Detector / Gas Detector หรือ ที่จะช่วยตรวจจับความร้อน ควันหรือแก๊สและเตือนภัยได้ทันท่วงที ระบบเตือนภัยนี้สำคัญมากสำหรับบ้านที่มีผู้ใหญ่ หากติดตั้งจะช่วยลดโอกาสของการเกิดข่าวเศร้าตามที่เราเห็นได้ อย่างกรณีเกิดเพลิงไหม้แล้วผู้ใหญ่ในบ้านหนีออกมาไม่ทัน

กล้องวงจรปิด

           แม้เราจะเห็นอุปกรณ์อย่างกล้องวงจรปิดกันมานานแล้ว แต่ก็นับว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับ smart home เหมือนกัน เพราะช่วยในเรื่องความปลอดภัย อีกทั้งมีรุ่นใหม่ ๆ ก้าวล้ำในเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น เช่น มีมุมกว้างแบบ 360 องศา มีระบบจดจำใบหน้า มีระบบอินฟาเรดที่ให้ภาพชัดแม้ในยามค่ำคืนหรือเวลากลางวันที่แสงน้อย มีระบบการเชื่อมต่อไร้สาย บางรุ่นใช้พลังงานแสงอาทิตย์ช่วยประหยัดพลังงาน สามารถส่งเสียงพูดคุยผ่านกล้องได้ ฯลฯ ทุกขณะสามารถเช็คผ่านมือถือ มองเห็นความเคลื่อนไหวของคนในบ้านได้ทั้งวัน โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุอยู่

ก๊อกน้ำอัจฉริยะ

           มีก๊อกน้ำแบบเซนเซอร์ ที่ช่วยลดการสัมผัส ช่วยให้ประหยัดน้ำ ดูแลรักษาและติดตั้งง่าย 

            ใครที่สงสัยว่า smart home นั้นมีข้อจำกัดหรือข้อควรระวังอะไรบ้างหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าแทบไม่มี เพราะอุปกรณ์ หรือระบบต่าง ๆ ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการทั้งเรื่องความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ฯลฯ โดยไม่ลืมเรื่องความปลอดภัยของอุปกรณ์และของระบบเอง ถ้าจะมีข้อจำกัดอยู่บ้างคงเป็นเรื่องงบประมาณที่เพิ่มขึ้นของ smart home การติดตั้งระบบต่าง ๆ ที่เป็น internet of things การสั่งซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เป็นบ้านอัจฉริยะมีความสะดวกและปลอดภัย มีราคาที่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่เมื่อผู้ประกอบการหันมาผลิตอุปกรณ์ หันมาให้บริการติดตั้งระบบต่าง ๆ เหล่านี้เพิ่มขึ้น ตลาด smart home ก็จะมีการแข่งขันกัน ทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์โดยจะได้ใช้ของที่มีคุณภาพดีขึ้นเรื่อย ๆ ในราคาที่ประหยัดในที่สุด 

            ย้อนกลับไปในช่วงแรกที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าอัตโนมัติออกมา อย่าง Smart TV ตอนแรกราคาสูงมาก แต่ถึงตอนนี้ทุกแบรนด์มี Smart TV ผลิตออกมาจำหน่าย ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น และราคาของ Smart TV ก็ถูกลงด้วย อุปกรณ์อื่น ๆ ต่อไปก็จะเป็นเช่นเดียวกัน โดยเราสามารถค่อย ๆ เปลี่ยนบ้านให้กลายเป็น Smart Home ตามงบประมาณที่เราตั้งไว้ได้ เริ่มจากความปลอดภัยที่ให้ความสำคัญก่อน ติดตั้ง กล้องวงจรปิด cctv ติดตั้งประตูรั้วเปิดปิดอัตโนมัติ ติดตั้งไฟอัตโนมัติที่โรงรถ ติดตั้ง เซ็นเซอร์อุณหภูมิ หรือ Smart Alarm แล้วค่อยถัดไปเป็นเรื่องการอำนวยความสะดวกที่จำเป็นน้อยกว่า เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติอื่น ตู้เย็น ทีวี เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ

หากจะคิดถึงความคุ้มค่าของ smart home ที่ต้องลงทุนเพิ่มแล้ว ถ้าแลกมาด้วยความสะดวกและปลอดภัยของสมาชิกในบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ร่วมกัน เชื่อว่าอย่างไรก็คุ้มที่จะลงทุนค่ะ