กล้องวงจรปิด มีกี่ประเภท เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

       ระบบความปลอดภัย อย่างหนึ่งที่นิยมใช้กัน คือระบบกล้องรักษาความปลอดภัยที่นับได้ว่ากลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยในการรักษาความปลอดภัยในปัจจุบันไปแล้ว ด้วยเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยทำให้ กล้องวงจรปิด

       นั้นมีประสิทธิภาพการใช้งานที่สูงขึ้น แต่กล้องรักษาความปลอดภัยนั้นมีกี่ประเภท แล้วจะเลือกแบบไหนมาใช้งานให้เหมาะสม วันนี้ บริษัท สมาร์ท เบสท์บายส์ จะมาไขความกระจ่างถึงประเภทของระบบกล้องรักษาความปลอดภัย รวมถึงแนะนำวิธีเลือกซื้อเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งาน 

ระบบของ กล้อง cctv

สำหรับกล้องรักษาความปลอดภัยนั้น แบ่งเป็น 2 ระบบดังนี้

1. กล้องระบบ Analog 

       เป็นระบบกล้องรักษาความปลอดภัยที่กำเนิดขึ้นในยุคแรกๆ เป็นระบบที่มีการส่งสัญญาณผ่านสายเคเบิลแล้วแปลงเป็นสัญญาณดิจิทัลเพื่อนำไปแสดงผลบนจอมอนิเตอร์หรือนำไปบันทึกเก็บไว้ในอุปกรณ์บันทึกภาพ

ข้อดีของกล้องระบบ Analog

• ใช้งบประมาณในการติดตั้งที่ถูกกว่า เหมาะสำหรับองค์กรที่มีงบประมาณไม่มาก
• ระบบติดตั้งไม่ซับซ้อน เนื่องจากไม่ต้องมีการใช้ระบบเน็ตเวิร์คเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องระบบเน็ตเวิร์คก็สามารถติดตั้งได้เอง จะมีเพียงแค่การเลือกจุดติดตั้งให้เหมาะสมแล้วเดินสายเคเบิลไปยังเครื่องบันทึกซึ่งควรใช้สายส่งสัญญาณที่มีคุณภาพสูงเพื่อคุณภาพในการบันทึกที่คมชัด
• สามารถเชื่อมต่อกล้องได้หลากหลายยี่ห้อ เพราะเป็นระบบแบบเก่าคือ  ระบบ PAL และ ระบบ NTSC เท่านั้น จึงทำให้สามารถใช้กล้องระบบ Analog ยี่ห้อใดก็ได้

ข้อด้อยของกล้องระบบ Analog

• ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ เนื่องจากหากมีการเดินสายสัญญาณในระยะไกลจะทำให้การบันทึกภาพและเสียงทำได้ไม่ดีเนื่องจากระยะของสายที่ยาวเกินไป นอกจากนี้ยังสัญญาณยังถูกรบกวนได้ง่ายทั้งจากสภาพอากาศ การสั่นสะเทือนจนทำให้สายสัญญาณหลวม ทำให้การติดตั้งกล้องระบบ Analog ในพื้นที่ขนาดใหญ่นั้นจำเป็นต้องแบ่งจุดติดตั้งเครื่องบันทึกเอาไว้หลายแห่งเพื่อรองรับกล้องแต่ละจุด ซึ่งเป็นการสิ้นเปลือง
• มีความปลอดภัยน้อย เพราะกล้องระบบ Analog นั้นไม่มีการรักษาความปลอดภัยด้วยรหัส หากมีผู้อื่นเข้าถึงห้องควบคุมได้ ก็สามารถเปิดดูภาพย้อนหลังได้ทันที
• มีความละเอียดน้อย ด้วยข้อจำกัดของคุณภาพกล้องรวมถึงสายส่งสัญญาณ ทำให้กล้องระบบนี้ไม่สามารถบันทึกภาพที่มีความละเอียดสูงได้

2. กล้องระบบ Digital

        หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ IP Camera เป็นระบบกล้องที่นิยมใช้ในปัจจุบัน โดยจะใช้การเชื่อมต่อกับระบบเน็ตเวิร์คเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยการเชื่อมต่อกล้องแต่ละตัวเข้ามาในระบบเครือข่ายและมีการกำหนดเลข IP ให้กับกล้องแต่ละตัวแยกกัน ซึ่งส่งผลให้สามารถใช้งานกล้องแต่ละตัวได้อย่างอิสระ

       กล้องระบบนี้จะใช้สาย LAN ทำการส่งสัญญาณภาพและเสียงไปยังจอแสดงผล นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายไร้สายหรือ Wifi เพื่อการใช้งานได้อย่างสะดวกอีกด้วย ซึ่งเราจะเห็นว่าตามบ้านเรือนมักจะใช้ กล้องวงจรปิด wifi กันมากขึ้น

ข้อดีของกล้องระบบ Digital

• กล้องระบบ Digital มีความละเอียดดสูงกว่ากล้องระบบ Analog ทำให้สามารถบันทึกภาพและเสียงในความคมชัดสูง

• มีความปลอดภัยสูง การทำงานของกล้องระบบ Digital ยากต่อการเข้ารหัสจากผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ผู้ควบคุมสามารถกำหนดสิทธิ์ของการเข้าถึงระบบกล้องที่เชื่อมต่อกับเน็ตเวิร์ค นอกจากนี้ยังกำหนดพื้นที่ของเครือข่ายแยกกันได้ ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะบันทึกข้อมูลลงเครื่องบันทึกหรือสำรองข้อมูลสู่ระบบ Server ได้ ซึ่งมีความปลอดภัยต่อการเสียหายของอุปกรณ์บันทึก รวมถึงการสูญหายของข้อมูล

• สามารถเพิ่มจำนวนกล้องได้มาก ซึ่งจากจากกล้องระบบ Analog ที่มีข้อจำกัดของ Channel ในการเชื่อมกล้องแต่ละตัว แต่กล้องระบบ Digital นั้น ไม่มีข้อจำกัดเช่นนี้ ทำให้เมื่อต้องการเพิ่มจำนวนจุดติดตั้งกล้องหรือขยายระบบจึงสามารถทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น

ข้อด้อยของกล้องระบบ Digital

• การออกแบบระบบมีความซับซ้อนเนื่องจากต้องมีการใช้ระบบเน็ตเวิร์คเข้ามาเชื่อมต่อ จึงจำเป็นต้องใช้ช่างที่มีความรู้ทั้งการติดตั้ง กล้อง cctv และมีความชำนาญในระบบเน็ตเวิร์คด้วย จึงจะสามารถติดตั้งระบบกล้องรักษาความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพ
• การส่งสัญญาณจากกล้องไปยังจอแสดงผลและเครื่องบันทึกจะเป็นต้องมีการใช้งานระบบ Bandwidth ที่สูงมาก ยิ่งกล้องที่มีความละเอียดสูงก็ยิ่งต้องใช้ Bandwidth สูงขึ้นเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดสูงสุด
• ไม่สามารถติดตั้งกล้องคนละยี่ห้อได้ในวงเน็ตเวิร์คเดียวกัน เนื่องจากกล้องระบบ Digital นั้นถูกพัฒนาระบบโดยผู้ผลิตหลายยี่ห้อ ทำให้การเชื่อมต่อที่เรียกว่า Protocal ต่างกัน ทำให้เชื่อมต่อกันไม่ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเทคนิคของแต่ละผู้ผลิตที่ต้องการจำหน่ายสินค้าของตนเอง

เลือก กล้อง cctv อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

        ปัจจุบันผู้พักอาศัยในบ้านส่วนตัวให้ความสำคัญกับ ระบบความปลอดภัย ภายในบ้านกันมากขึ้น ซึ่ง กล้องวงจรปิด นั้นถือเป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ด้วยเทคโนโลยีที่สูงขึ้น แต่ราคาที่ถูกลง ทำให้หลายๆคนหันมาให้ความสนใจ แต่จะเลือกกล้องอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งานโดยคุ้มค่าที่สุด เราลองมาดูกันว่ากล้องแบบใดที่เหมาะกับการใช้งานของเรา

1.กล้องแบบบูลเล็ต (Bullet)

        เป็นกล้องสำหรับติดตั้งภายนอกบ้านหรือนอกอาคารที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีคุณสมบัติทนทานต่อสภาพอากาศ กันน้ำ กันความชื้นได้ และมีระบบอินฟาเรดที่บันทึกภาพได้ในที่มีแสงน้อยรวมถึงในที่มืดสนิทก็ยังสามารถจับภาพได้ แต่ระยะการมองเห็นของอินฟาเรดก็มีจำกัดเพียง 10-30 เมตรเท่านั้น หากไกลกว่านี้จะไม่สามารถจับภาพได้ชัด นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดคือไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ทำให้มีข้อจำกัดเรื่องมุมมอง กล้องแบบนี้จึงนิยมติดตั้งอยู่ภายนอกอาคารมากกว่า

2.กล้องทรงกระบอก (Box Camera)

      เป็นกล้องแบบมาตรฐานที่เหมาะสำหรับติดตั้งไว้ในบริเวณที่มีแสงสว่าง มีข้อดีของกล้องระบบนี้คือให้ความคมชัดในการบันทึกภาพสูง สามารถเปลี่ยนเลนส์ให้มีระยะที่ยาวขึ้นเพื่อเพิ่มความคมชัดได้ หากใช้เลนส์ที่มีความคมชัดสูงจะสามารถซูมภาพได้ในระยะไกลโดยภาพไม่แตก จึงเหมาะสมกับการติดตั้งในบริเวณที่พื้นที่มีความกว้าง

3.กล้องแบบโดม (Dome)

     เป็นกล้องรักษาความปลอดภัยขนาดเล็ก เหมาะสำหรับติดตั้งภายในอาคารเพื่อความกลมกลืน สวยงาม ทำให้ไม่รู้สึกว่ากล้องเป็นสิ่งแปลกปลอม ข้อดีของกล้องแบบโดมคือติดตั้งใช้งานได้ง่าย มุมมองของกล้องไม่เคลื่อนที่เมื่อถูกกระแทก มีน้ำหนักเบา แต่ด้วยความเล็กจึงทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ระยะบันทึกภาพสั้นกว่ากล้องที่มีคุณภาพสูง

4.กล้องแบบสปีดโดม (Speed Dome)

    เป็นกล้องที่มีรูปลักษณ์แบบเดียวกับกล้องโดม แต่มีคุณสมบัติในการควบคุมทิศทางทั้งการควบคุมมุมกล้องขึ้น-ลง ได้ ควบคุมทิศทางซ้าย-ขวาได้ หรือควบคุมการซูมเข้า-ออกได้แบบอิสระ ข้อดีของกล้องสปีดโดมที่สามารถควบคุมทิศทางได้นั้น

     จึงทำให้ลดการติดตั้งกล้องจำนวนหลายตัวลงได้ แต่ก็มีจุดด้อยคือต้องมีคนคอยควบคุมการทำงานของกล้อง ทำให้ในบางครั้งหากเกิดเหตุขึ้นในขณะที่กล้องหันไปทางอื่น จะทำให้ไม่สามารถบันทึกเหตุการณ์ได้ทัน

5.กล้องวงจรปิดไร้สาย

      เป็นกล้องที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ใช้กันอย่างแพร่หลายเนื่องจากในปัจจุบันมีราคาค่อนข้างถูก ใช้งานสะดวกไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องมีการวางระบบเน็ตเวิร์ค สามารถบันทึกภาพลง memory card ได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็น กล้องวงจรปิดไร้สายดูผ่านโทรศัพท์ ได้ทุกที่ทุกเวลา

        เพียงแค่เชื่อมต่อกับระบบ wifi ถือเป็นระบบหนึ่งที่สำคัญของ smart home ร่วมกับระบบอัจฉริยะอื่นๆภายในบ้าน ซึ่งบางรุ่นยังมีระบบ Motion Sensor การตรวจจับความเคลื่อนไหวของผู้บุกรุกแล้วส่งสัญญาณไปยังสมาร์ทโฟนเพื่อเตือนภัยได้ทันที บางรุ่นยังมีระบบพูดคุยผ่านกล้องได้ หลายคนจึงนำมาใช้ติดตั้งเพื่อดูแลผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หรือแม้แต่ดูแลความปลอดภัยให้ของสัตว์เลี้ยงแสนรักได้ด้วย

          การเลือกกล้องรักษาความปลอดภัยเพื่อใช้งานนั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก หากเป็นบ้านพัก อาจจะติดกล้องตามจุดต่าง ๆ ของบ้านให้ครอบคลุม เช่น บริเวณทางเข้าบ้าน บริเวณหลังบ้าน ภายในห้องต่าง ๆ ของบ้านที่เป็นจุดสำคัญในการใช้งาน

          แต่สำหรับบางคนที่พักอาศัยอยู่ตามคอนโดหรืออะพาร์ตเม้นต์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว อาจจะเลือกติด กล้องวงจรปิด wifi เอาไว้ในห้องส่วนตัวเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับทรัพย์สินของตนเองเวลาที่ไม่อยู่ห้อง เท่านี้ก็เพียงพอต่อการใช้งาน