ยกระดับโกดังสินค้า ทันสมัย ปลอดภัยด้วย 7 เทคโนโลยีทันสมัย

      โกดังสินค้าเป็นพื้นที่เก็บของซึ่งตีเป็นมูลค่ามหาศาล ดังนั้นการป้องกันไม่ให้สินค้าเสียหายจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การติดตั้งอุปกรณ์อัจฉริยะอาจพบได้บ่อยใน บ้านอัจฉริยะ ซึ่งก็สามารถนำมาปรับใช้กับโกดังสินค้าได้เช่นเดียวกัน

       วันนี้เราจึงขอแนะนำ 7 อุปกรณ์อัจฉริยะที่จะช่วยให้โกสินค้ามีความทันสมัย สามารถแจ้งเตือนได้อย่างทันท่วงทีหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น ไปดูกันว่าจะมีอุปกรณ์ที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง

 

1.กล้องวงจรปิดไร้สาย 

        กล้อง cctv เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ ๆ ต้องการตรวจสอบความปลอดภัยอยู่เสมอ โดยปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาไปทุก ๆ วัน ทำให้มีการเชื่อมต่อแบบไม่ต้องต่อสายไฟให้ยุ่งยากมากมาย เป็นการเชื่อมต่อโดยใช้สัญญาณ Wi-Fi  ที่มีตัวปล่อยสัญญาณครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ กล้องวงจรปิด wifi สามารถเชื่อมต่อได้ง่ายและตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านสมาร์ทโฟน 

        โดย กล้องวงจรปิดไร้สาย นี้มี Motion Sensor  ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวที่สามารถหมุนตามการเคลื่อนที่ของวัตถุที่จับภาพอยู่ได้ถึง 360 องศา และหากไม่ต้องการให้ กล้องวงจรปิด wifi  เคลื่อนไหวตามการเคลื่อนที่ก็สามารถตั้งค่าได้ โดยที่เรายังสามารถตรวจสอบความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบผ่านการควบคุมในแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน กล้องวงจรปิดไร้สาย

       มีทั้งแบบเดี่ยว แบบ 4 ตัว และ 8 ตัว มีคุณสมบัติกันน้ำได้ มีรังสีอินฟราเรดที่ใช้งานได้ในเวลากลางคืน มีความคมชัดมากถึง 500 ล้านพิกเซล และเพิ่มความจุได้ถึง 1 เทระไบต์ จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในทุกพื้นที่ รวมถึงบริเวณที่ต้องการเก็บข้อมูลเป็นจำนวนมากด้วย 

3.Human body sensor  

       ในโกดังสินค้าส่วนใหญ่จะมีซอกซอยอยู่มากมายที่เป็นจุดอับสายตา หากมีคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในโกดังก็อาจเล็ดลอดสายตาผู้ดูแลไปได้ การติดตั้ง Human body sensor ที่มี Motion Sensor ไว้คอยตรวจจับความเคลื่อนไหว โดยสามารถจับมุมกว้างได้มากถึง 150 องศา และที่ฐานสามารถหมุนได้รอบ 360 องศา โดยเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวนี้จะแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันได้ทันทีเมื่อมีคนเดินผ่านในระยะ 5-7 เมตร โดยสามารถติดตั้งได้หลายแบบเพื่อไม่ให้เป็นจุดสังเกต

     ทั้งแบบตั้งโต๊ะ แบบวางติดผนัง และติดกับเพดาน โดยมีถ่านประเภท CR2450 ติดมากับเครื่อง สามรถใช้งานในสภาพภูมิอากาศ -10 ถึง 45 องศาเซลเซียส จึงมั่นใจได้ว่าเครื่องนี้จะทำงานได้อย่างเป็นปกติในอากาศเมืองร้อนแบบประเทศไทย

      โดยเครื่องนี้เชื่อมต่อโดยใช้สัญญาณ Wi-Fi และมีตัวส่งสัญญาณแบบ Zigbee ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์อื่น ๆ ให้เปิดเมื่อมีการตรวจจับความการเคลื่อนไหวได้ด้วย เช่น สั่งการให้ หลอดไฟอัจฉริยะ ส่องสว่าง หรือสั่งการให้สัญญาณไฟพร้อมเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น  เป็นต้น 

4.Door and Window sensor 

      โกดังสินค้าหลาย ๆ ที่จะมีประตู หรือหน้าต่างบานย่อยที่อาจจะลืมปิดได้ การติดตั้ง Door and window sensor จะช่วยกำจัดปัญหานี้ไปได้อย่างง่ายดาย โดยเซ็นเซอร์ตัวนี้ใน 1 ชุดจะมี 2 ชิ้น เพื่อใช้ติดแต่ละฝั่งของประตูและหน้าต่าง มีระบบแจ้งเตือนเมื่อประตูเปิดออกจากกัน และยังสามารถแจ้งเตือนได้หากมีการงัดแงะอีกด้วย Door and window sensor

       มีรูปทรงเป็นวงรี ขนาดกะทัดรัด ใช้พลังงานจากถ่าน CR2032 ที่มีอายุการใช้งานนานประมาณ 1.5 ปี หากมีการเปิด-ปิด 10 ครั้งต่อวัน อุปกรณ์ชิ้นนี้ใช้ระบบสื่อสารแบบ Zigbee ที่ต้องทำงานร่วมกับ Smart gateway โดยสามารถตรวจสอบประวัติย้อนหลังในแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้ นอกจากนี้สินค้าชิ้นนี้ยังมีการรับประกัน จึงมั่นใจได้ว่าจะได้สินค้าที่มีคุณภาพอย่างแน่นอน 

5.Smart switch  

       เพื่อสร้างให้อุปกรณ์ไฟฟ้าในโกดังสินค้าสามารถควบคุมการทำงานได้ง่ายแบบ smart home สวิตช์ไฟอัจฉริยะก็เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะในโกดังย่อมประกอบดวงไฟหลายสิบดวง การที่เราต้องมานั่งไล่ปิดทุกดวงโดยบางทีก็ลืมปิดอีก ทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายตามมามากมาย การติตดั้ง Smart switch

      จึงเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะไม่ต้องไล่สายไฟใหม่ เพียงแค่เปลี่ยนตัวสวิตช์และติดตั้งลงทะเบียนในสมาร์ทโฟนให้เรียบร้อยก็พร้อมใช้งานแล้ว โดย Smart switch สื่อสารด้วยระบบ Wi-Fi ทำให้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ง่าย ควบคุมเวลาเปิดปิดได้

       โดยที่สามารถตั้งเวลาได้ด้วย วัสดุผลิตจากโพลีคาร์บอเนตซึ่งเป็นวัสดุหน่วงไฟและวัสดุแผงใช้เป็นกระจกนิรภัยที่มีความทนทานและสามารถป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟได้ นอกจากนี้ยังมีไฟ LED แสดงตำแหน่งอยู่ตลอดเวลา ทำให้มองเห็นได้แม้อยู่ในที่มืด ซึ่งนอกจากควบคุมการเปิด-ปิดผ่านสมาร์ทโฟนได้แล้ว ก็สามารถกดที่ตัวสวิตช์ รวมถึงสั่งการผ่านเสียงได้อีกด้วย 

 

6.รีโมทอัจฉริยะ 

        การที่มีอุปกรณ์อัจฉริยะหลายชิ้นที่มาพร้อมกับรีโมทคอนโทรล ทำให้เราต้องพกพารีโมทหลาย ๆ ชนิด จนทำให้บางทีอาจเกิดการสับสนได้ว่ารีโมทอันไหนเป็นของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดใด การใช้รีโมทอัจฉริยะจึงช่วยให้การใช้งานอุปกรณ์ต่างเป็นไปได้ราบรื่นมากขึ้น โดยรีโมทอัจฉริยะมีฐานข้อมูลของเครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่า 8000 รายการ

      ซึ่งต้องทำงานร่วมกับ Smart gateway ที่เมื่อเชื่อมต่อกันแล้วก็จะสามารถตรวจสอบการทำงานของรีโมทอัจฉริยะผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนได้ ช่วยให้การควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะไม่ยุ่งยากอีกต่อไป

     โดยรีโมทอัจฉริยะเป็นอุปกรณ์ที่ต้องเสียบสายไว้ตลอดเวลาเพื่อให้การทำงานมีความสะดวก ราบรื่น สามารถตรวจสอบสถานะของอุปกรณ์อัจฉริยะที่อยู่ในรัศมี 8-15 เมตร โดยสามารถปล่อยสัญญาณได้แบบ 360 องศา มีฟังก์ชันรองรับการสั่งการด้วยเสียงจากสมาร์ทโฟน โดยอาศัยตัวช่วยอย่าง Google assistant หรือ Amazon Alexa 

7.Smart gateway

     อุปกรณ์อัจฉริยะชิ้นสำคัญที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์อัจฉริยะที่ใช้ระบบ Zigbee (อุปกรณ์ Zigbee) กับ สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบ Wi-Fi โดยอุปกรณ์ Zigbee กับสมาร์ทโฟนเมื่ออยู่เดี่ยว ๆ เป็นอิสระต่อกัน ก็เหมือนมีภาษาของตัวเอง (คือ Zigbee กับ Wi-Fi) เวลาที่ต้องการให้มาเชื่อมโยงกันจึงต้องอาศัย Smart gateway มาเป็นตัวแปลภาษาให้

         โดย Smart gateway นี้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Zigbee ได้ถึง 50 อุปกรณ์ เช่น Gas Detector ตัวตรวจจับควัน เซ็นเซอร์ประตูและหน้าต่าง และเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว รวมถึงอุปกรณ์ Zigbee อื่น ๆ ด้วย โดยสมาร์ท เกตเวย์ มาในรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส เส้นทแยงมุม 9.5 ซม. สูง 2 ซม. แรงดันไฟฟ้า 5 โวลต์ กระแสไฟฟ้าสูงสุด 1 แอมป์ สำหรับใครที่ติดตั้งอุปกรณ์ Zigbee ไว้ ก็ต้องไม่พลาดที่จะติดตั้ง Smart gateway ด้วย เพราะไม่อย่างนั้นเราจะไม่สามารถตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ Zigbee ผ่านสมาร์ทโฟนได้ 

        อุปกรณ์อัจฉริยะแต่ละชนิดก็ผลิตมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สัญญาณ Zigbee หรือสัญญาณ Wi-Fi ซึ่งเราสามารถเลือกซื้ออุปกรณ์ที่จะตอบโจทย์การใช้งานของเราได้ง่าย ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.smartsafetyservice.com/ ซึ่งมั่นใจได้ในคุณภาพสินค้าเพราะมีการรับประกันการใช้งาน มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาทั้งก่อนและหลังการขาย รวมไปถึงมีการรีวิวในเชิงบวกจากผู้ใช้งานมาอย่างยาวนานด้วย