แนะนำการเลือกออกแบบและเลือกซื้ออุปกรณ์ Smart home บ้านอัจฉริยะของคนยุคใหม่

       เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มาคู่กับบ้านอัจฉริยะ ซึ่งมีส่วนสำคัญที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น สำหรับใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อนำไปใช้ในบ้านหรือที่ทำงาน วันนี้เราขอแนะนำการออกแบบบ้านและการเลือกซื้ออุปกรณ์อัจฉริยะเบื้องต้นที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเลือกซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ไปใช้งาน 

ในส่วนของการออกแบบพื้นที่ในบ้านมีหลายปัจจัยที่ควรใส่ใจ เช่น 

  • จัดพื้นที่ในบ้านให้เหมาะกับการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ 

        พื้นที่อาศัยภายในบ้านควรจัดการให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและเติมเต็มช่วงเวลาพักผ่อนให้ได้มากที่สุด สำหรับบ้านใครที่มีผู้อยู่อาศัยซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องให้การดูแลเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย ก็ยิ่งต้องให้ความใส่ใจในการจัดพื้นที่ ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดอันตราย เช่น จัดให้มีทางลาดในบริเวณที่เป็นพื้นต่างระดับในห้องผู้สูงอายุเพื่อป้องกันการหกล้ม หรือยึดติดอุปกรณ์ต่าง ๆ ในห้องเด็กเล็กให้มีความแน่นหนาเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น 

  • จัดสิ่งของเครื่องใช้ให้อยู่เป็นสัดส่วน 

      ในพื้นที่สำหรับการพักผ่อน มักจะมีสิ่งของต่าง ๆ เก็บไว้เพื่อการใช้งาน ซึ่งหากไม่จัดวางให้เรียบร้อยก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การจัดของใช้ให้เป็นระเบียบในตู้หรือชั้นวางของจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมกว่า ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้แล้ว ยังสะดวกต่อการทำความสะอาดและง่ายต่อการหยิบใช้งานด้วย ถ้ามีของใช้ที่เกินความจำเป็นก็ควรกำจัดออกไปบ้าง

       โดยมีหลายช่องทาง ทั้งการบริจาค ขายร้านรับซื้อของเก่า หรือส่งไปยังจุดรับวัสดุต่าง ๆ เพื่อการใช้งานแบบหมุนเวียนและทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และหากเป็นพื้นที่ในห้องครัวก็ควรจัดให้มีความโล่งโปร่ง ระบายอากาศได้ดี เผื่อมีเหตุฉุกเฉินเช่น แก๊สรั่ว ก็จะช่วยให้แก๊สระบายออกไปได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้ 

  • เลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ 

       นอกจากการจัดพื้นที่ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว การเลือกใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีคุณภาพก็เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจไม่แพ้กัน ซึ่งหากนำอุปกรณ์ที่ไม่ได้คุณภาพมาใช้ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ถึงแม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อยก็ตาม อย่างเช่น เก้าอี้ที่ผลิตจากพลาสติกคุณภาพต่ำ เมื่อเราใช้นั่งหรือยืนหรือลงน้ำหนักมากไปก็อาจทำให้เก้าอี้พัง ซึ่งบ่อยครั้งก็ทำให้เกิดการบาดเจ็บตามมา และโดยเฉพาะอุปกรณ์อัจฉริยะที่มีส่วนสำคัญในการป้องกันความปลอดภัยก็ต้องให้ความสำคัญในการเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ เช่น Smoke Detector เครื่องตรวจจับควันอัจฉริยะ

      จาก Smart Safety Service ที่เป็นอุปกรณ์ตรวจจับควันที่มีคุณภาพ โดยมีการรับประกันนนานถึง 1 ปี Smoke Detector เป็นอุปกรณ์ที่สามารถแจ้งเตือนเมื่อมีความเข้มข้นของควันในอากาศมากกว่า 6% ซึ่งมีการแจ้งเตือนทั้งแบบเป็นเสียงที่ตัวเครื่องซึ่งมีความดังถึง 85 เดซิเบล ในระยะ 3 เมตร และแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันผ่านสมาร์ทโฟนที่ลงทะเบียนไว้ ช่วยป้องกันความปลอดภัยได้ตลอดเวลา 

การเลือกซื้ออุปกรณ์อัจฉริยะ จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายแต่ก็มีปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญ ประกอบด้วย 

  • เลือกซื้ออุปกรณ์อัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพ 

         เมื่อซื้อสินค้ามาใช้งานผู้ใช้ย่อมมีความคาดหวังให้สินค้าชิ้นนั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและตอบโจทย์การใช้งานได้ครบถ้วน อย่างเช่น กล้องวงจรปิด ซึ่งปัจจุบันมี กล้องวงจรปิดไร้สายดูผ่านโทรศัพท์ ที่สามารถเชื่อมต่อได้ง่ายด้วยระบบ Wi-Fi เช่น กล้องวงจรปิดรุ่น Smart IP Camera และการใช้ซิม ได้แก่ กล้องวงจรปิดรุ่น Hulk Wifi Mini Smart Camera โดย Smart IP Camera เป็นกล้องที่เหมาะสำหรับการติดตั้งภายในอาคารที่สามารถจับภาพได้เป็นมุมกว้าง 108 องศา ระยะที่สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวภายในระยะ 10 เมตร โดยมีระบบอินฟราเรดที่จะช่วยให้สามารถจับภาพตอนกลางคืนได้อย่างชัดเจนด้วย และเนื่องจากเป็นกล้องที่ใช้ระบบ Wi-Fi จึงเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ง่าย

         โดยสามารถควบคุมการเปิดปิดกล้อง การเคลื่อนที่ของเลนส์ และสื่อสารโต้ตอบกันได้ด้วย โดยมีการรับประกันนานถึง 3 ปี ส่วนกล้องรุ่น HULK Wifi mini smart camera เป็นกล้องที่สามารถติดตั้งได้แม้ในระยะที่สัญญาณ Wi-Fi เข้าไม่ถึง โดยใช้ซิมเพื่อเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ที่มีความทนทาน ชาร์จหนึ่งครั้งใช้งานได้นานถึง 6 เดือน จึงไม่ต้องเดินสายไฟให้ยุ่งยาก มีระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวที่จะแจ้งเตือนผ่านแอปพลิคชันทันทีเมื่อมีคนบุกรุก กล้องวงจรปิดไร้สายดูผ่านโทรศัพท์ รุ่นนี้ยังสามารถสื่อสารและฟังเสียงได้ผ่านแอปพลิเคชัน และมีระบบอินฟราเรดที่สามารถบันทึกภาพตอนกลางคืนออกมาได้ชัดเจน 

  • ติดตั้งอุปกรณ์อัจฉริยะในที่เหมาะสม

         การติดตั้งอุปกรณ์อัจฉริยะจะช่วยป้องกันความปลอดภัยได้เมื่อติดตั้งไว้ในที่ที่เหมาะสม เช่น Gas Detector เป็นเซนเซอร์อัจฉริยะที่สามารถตรวจจับแก๊สมีเทนหรือแก๊สหุงต้มได้เมื่อมีความเข้มข้นของแก๊สมากกว่า 8% โดยจะมีการแจ้งเตือนทั้งการส่งเสียงที่ตัวเครื่องและการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันที่ลงทะเบียนไว้ ซึ่งการติดตั้ง Gas Detector ก็ควรติดตั้งในบริเวณที่อยู่เหนือแก๊ส 1.5-3 เมตร เพื่อให้เซนเซอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ก็อย่าลืมดูแลรักษาเซนเซอร์ให้พร้อมใช้งาน ด้วยการทำความสะอาด เช็ดฝุ่น หรือคราบสกปรก เพราะถ้าหากเซนเซอร์ปกคลุมไปด้วยสิ่งสกปรกก็จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงได้ เครื่องตรวจจับแก๊สชนิดนี้ใช้การสื่อสารระบบ ZigBee

        ซึ่งต้องมีเกตเวย์เป็นตัวเชื่อมเซนเซอร์เพื่อเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน โดยอุปกรณ์ Zigbee นี้มีจุดเด่นที่การประหยัดพลังงาน ซึ่งอุปกรณ์แบบเซนเซอร์หรือระบบตรวจจับต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะใช้การสื่อสารระบบนี้เพื่อการประหยัดพลังงานและส่งสัญญาณได้รวดเร็ว โดยเกตเวย์ 1 เครื่อง สามารถเชื่อมต่อได้มากถึง 50 เซนเซอร์ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมมากเมื่อใช้อุปกรณ์ Zigbee 

  • เลือกอุปกรณ์อัจฉริยะ ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ 

        แต่ละคนก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้อุปกรณ์อัจฉริยะแตกต่างกันไป อย่างเช่น เซ็นเซอร์อุณหภูมิ และความชื้นที่หลายบ้านก็อาจจะไม่ได้คิดถึงอุปกรณ์นี้เลย แต่ถ้าบ้านไหนมีคนในบ้านที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ รวมไปถึงมีอุปกรณ์ที่ต้องระวังเรื่องความชื้นและอุณหภูมิเป็นพิเศษต้องถูกใจแน่นอน โดย เซ็นเซอร์อุณหภูมิ และความชื้น เป็นอุปกรณ์ที่แสดงค่าอุณหภูมิและความชื้นแบบ Real-Time

       ช่วยให้สามารถปรับสภาพอากาศให้มีความเหมาะสมได้อย่างทันท่วงที โดยเซนเซอร์ชนิดนี้ เป็นอุปกรณ์ ZigBee ที่ใช้ร่วมกับเกตเวย์ มาพร้อมกับถ่าน CR 2450 มีระยะการใช้งานที่ยาวนานไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อย ๆ สามารถดูบันทึกย้อนหลังผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ช่วยป้องกันความเสียหายทั้งต่อสุขภาพและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องใส่ใจเรื่องสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี สามารถตรวจวัดสภาพอากาศและความชื้นได้ในระยะ 10-30 เมตร สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการทำงานคือ -10 ถึง 60 องศาเซลเซียส

  • เลือกซื้ออุปกรณ์อัจฉริยะ จากร้านค้าที่ไว้ใจได้ และมีบริการหลังการขายที่ดี 

สินค้าที่มีคุณภาพดีมักมีราคาสูงกว่าสินค้าที่คุณภาพต่ำกว่า ซึ่งการเลือกซื้ออุปกรณ์อัจฉริยะที่มีผลต่อการป้องกันความปลอดภัยก็จำเป็นต้องเลือกใช้สินค้าที่มีคุณภาพสูง เช่น Smart switch สวิตช์ไฟอัจฉริยะ ที่ผลิตจากวัสดุโพลีคาร์บอเนตอย่างดี ที่สามารถป้องกันไฟช็อตได้ เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ทำให้ควบคุมการทำงานได้ง่ายแม้ไม่อยู่ในบ้าน โดยรองรับทั้งระบบ iOS และ Android การติดตั้งสามารถทำได้ง่าย ใช้สายเดิมได้เลยไม่ต้องเดินสายใหม่ โดยตัวกรอบแนบสนิทป้องกันการเข้าไปทำรังของมดและแมลง ซึ่งเป็นต้นเหตุของความเสียหายได้มากมาย

      นอกจากนี้ Smart switch ยังสามารถสั่งการด้วยเสียงได้ เมื่อเชื่อมต่อ Google Home หรือ Amazon Alexa โดยหากสั่งซื้อผ่าน Smart Safety Service ช่วงนี้ก็มีบริการติตดั้งฟรีเมื่อซื้อสวิตช์ไฟอัจฉริยะ 5 ตัวขึ้นไป นอกจากนี้ก็มีการรับประกันหลังการขายเป็นระยะเวลา 1 ปี หากไม่พึงพอใจสินค้าสามารถคืนเงินได้ภายใน 5 วัน ใครที่กำลังจะติดตั้งอุปกรณ์อัจฉริยะภายในบ้านหรือที่ทำงานไม่ควรพลาด 

       อุปกรณ์อัจฉริยะเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคย ซึ่งทีม Smart Safety Service สามารถให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่สนใจได้รวมถึงมีบริการติดตั้งครบวงจร หากใครสนใจสินค้าและบริการจากสามารถเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ https://www.smartsafetyservice.com/  ได้เลย

เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น