แจกบทความฟรี
7 ข้อห้าม การออกแบบลานจอดรถ ที่ผิดพลาด
การทำงานใด ๆ ก็ตามหากวางแผนเอาไว้ก่อนย่อมทำให้ผลของมันออกมาดีอยู่แล้ว อย่างเรื่องการออกแบบลานจอดรถจริง ๆ การวางแผนแล้วปฏิบัติตามขั้นตอนให้ได้จะช่วยให้งานออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด กระนั้นหลาย ๆ คนที่ออกแบบลานจอดรถอาจยังไม่รู้ว่ามีข้อห้ามบางประการที่ต้องทำความเข้าใจให้มากที่สุด ไม่อย่างนั้นหากออกแบบมาแล้วจะทำให้เกิดความผิดพลาดเอาได้ง่าย ๆ ร้านไทยจราจร จึงอยากมาบอกถึง 7 ข้อห้ามเกี่ยวกับการออกแบบลานจอดรถที่ผิดพลาดว่าอย่าออกแบบในลักษณะนี้เด็ดขาดไม่อย่างนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาอีกไม่รู้จบ
1.เน้นให้รถเข้ามาจอดได้เยอะที่สุด
ข้อห้ามแรกที่บอกเลยว่าไม่ใช่ความคิดที่ดีสำหรับคนออกแบบลานจอดรถนั่นคือ ออกแบบยังไงก็ได้ตั้งเป้าไว้แค่ให้รถสามารถเข้ามาจอดได้เยอะที่สุด เช่น ซอยช่องจอดรถให้แคบเพียงแค่ตัวรถจากขนาดปกติที่มองว่าจอดได้ 30 คัน เป็น 35 – 40 คัน หรือ การทำเลนรถวิ่งให้แคบลงเพื่อจะได้เพิ่มพื้นที่สำหรับการจอดซ้อนคันได้ เป็นต้น การออกแบบลักษณะนี้มีความเป็นไปได้สูงมากที่รถของผู้เข้ามาจอดจะเกิดการเฉี่ยวชนกันบ่อยจนกลายเป็นปัญหาลุกลามในหลาย ๆ ด้านแบบคาดไม่ถึง
2.มองว่าการใช้อุปกรณ์จราจรเป็นของสิ้นเปลือง
นักออกแบบลานจอดรถบางคนมั่นใจในการออกแบบของตนเองมากขนาดว่าไม่เห็นจำเป็นต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์จราจรบางอย่างที่มองแล้วสิ้นเปลืองมาใช้เลย เช่น ไม่ต้องใช้ ยางกันกระแทก ตรงเสาก็ได้เพราะพื้นที่จอดมีขนาดใหญ่, ไม่จำเป็นต้องมี ป้ายจราจร ใด ๆ เพราะทำลูกศรกับพื้นไว้หมดแล้ว, กระจกโค้งจราจร ไม่ต้องมีเพราะไฟส่องสว่างชัดเจน และอื่น ๆ บอกเลยนี่เป็นข้อห้ามที่อย่าแม้แต่จะคิดเด็ดขาด ยังไงความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่ต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอสำหรับการออกแบบลานจอดรถ
3.ยางกั้นล้อรถ ไม่ใช่สาระสำคัญเลย
แม้อุปกรณ์ชิ้นนี้คืออุปกรณ์จราจรเหมือนกับข้อ 2 แต่ความต่างคือลานจอดรถทุกแห่งควรต้องมีการติดตั้งยางกั้นล้อรถเสมอ เปรียบได้กับเป็นอุปกรณ์ทีจำเป็นและห้ามขาดในทุกจุด ยกตัวอย่างเช่น หากจอดรถชิดกำแพงถ้าไม่มีกั้นเอาไว้โอกาสชนกำแพงก็สูง หรือรถที่จอดแบบท้ายชนกันหากไม่มียางกั้นรถกั้นเอาไว้โอกาสที่จะชนคันฝั่งตรงข้ามก็มีด้วยเช่นกัน ดังนั้นข้อนี้จึงถูกแยกตัวออกมาเพราะอุปกรณ์จราจรบางชนิดยังพอจะมีบ้างหรือไม่มีบ้างก็ได้ แต่สำหรับยางหยุดรถจำเป็นต้องมีทุกช่องจอด
4.ติดตั้งกล้องวงจรปิดเฉพาะจุดเท่านั้น
อย่างที่รู้กันว่ารถแต่ละคันมูลค่าไม่ใช่ถูก ๆ ไหนจะสิ่งของในรถอีกหากเกิดการลักขโมยหรือสูญหายไปยังไงผู้ให้เช่าลานจอดรถก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ ทว่าหลายคนกลับเกรงสิ้นเปลืองงบประมาณเลือกติดกล้องแค่บางจุดจนหลักฐานสำคัญอย่างภาพจากกล้องวงจรปิดไม่มีให้ตรวจสอบจนกลายเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำมากที่สุดในการรักษาความปลอดภัยภายในลานจอดรถคือ ติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกจุดโดยคำนึงว่าต่อให้รถจอดอยู่มุมไหนของลานจอดก็ต้องเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
5.ไม่แบ่งแยกทางเข้า ออก ลานจอดรถให้ชัดเจน
อีกข้อห้ามที่นักออกแบบลานจอดรถหลายคนมองข้ามคือการออกแบบทางเข้าออกให้แยกจากกันอย่างชัดเจน คำว่าแยกจากกันในที่นี้คือช่องทางเข้ากับช่องทางออกควรเลือกใช้คนละช่องทาง ไม่ใช่ใช้ไม้กั้นอันเดียวกันหรือใช้ช่องทางเข้าออกฝั่งเดียวกัน เพราะการออกแบบเช่นนี้โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุมีสูงมาก ๆ ไม่ใช่แค่ตัวผู้ขับขี่อย่างเดียวแต่คนรอบข้างที่เดินไปมาหรือแม้แต่คนในป้อมยามก็มีสิทธิ์ได้รับอันตรายเช่นกัน การแบ่งทางเข้าช่องทางหนึ่งและออกอีกช่องจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำ
6.ไม่มีทางหนีไฟใด ๆ ทั้งสิ้น
แม้จะบอกว่าการออกแบบลานจอดรถของเราปลอดภัยแน่นอน ทว่าอุบัติเหตุต่าง ๆ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน ดังนั้นการออกแบบทางหนีไฟเอาไว้ด้วยจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะลานจอดรถที่มีหลาย ๆ ชั้น หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาจริง ๆ อย่างน้อยการวิ่งลงบันไดหนีไฟยังทำให้รู้สึกปลอดภัยมากกว่าการใช้ลิฟต์หรือการวิ่งเข้าไปหาทางออกภายในอาคารอย่างแน่นอน
7.มีทางเข้า ออก หลายช่องทางเกินไป
บางแห่งเข้าใจได้ว่าสามารถเชื่อมต่อกับถนนได้หลายเส้น แต่อย่างน้อยที่สุดการออกแบบทางเข้า ออก ควรเลือกถนนละช่องทางเท่านั้น ไม่ใช่ถนนเส้นหนึ่งสามารถเข้าออกได้มากกว่า 2-3 ช่องทาง แบบนี้ยิ่งทำให้การจราจรติดขัดมากแถมโอกาสเกิดอันตรายต่อตัวผู้ขับขี่เองก็สูงจากปัญหาแย่งกันออกหลาย ๆ ช่องจนรถเบียดกัน
ข้อห้ามทั้งหมดนี้นับว่าเป็นเรื่องที่คนออกแบบลานจอดรถต้องเก็บไปพิจารณาด้วยเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดไม่ให้เกิดขึ้น เพราะถ้ามีความผิดพลาดแม้เป็นเรื่องเล็ก ๆ มันย่อมไม่ใช่เรื่องดียิ่งถ้าเป็นเรื่องใหญ่โตประเภทมีทรัพย์สินเสียหายหนักหรือมีผู้ได้รับบาดเจ็บจะกลายเป็นเรื่องบานปลายเข้าไปอีก ๆ ร้านไทยจราจร ย้ำว่าการออกแบบลานจอดรถให้ดีที่สุดคือต้องนำเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรกเสมอ