วิธีการเลือกซื้อ กล้องวงจรปิด เพื่อใช้งานภายในบ้าน

       กล้องรักษาความปลอดภัยหรือ กล้อง cctv (Closed-circuit television) ถือเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่ต่าง  ๆ ในปัจจุบันผู้พักอาศัยในบ้านเรือนก็นิยมติดตั้ง กล้องวงจรปิด เอาไว้เพื่อใช้งานกันมากขึ้น เพราะด้วยเทคโนโลยีของกล้องรักษาความปลอดภัยที่มีความทันสมัย ใช้งานได้ง่ายขึ้น รวมถึงมีราคาที่ถูกลง ทำให้เกิดความคุ้มค่าที่จะลงทุนเพื่อซื้อหามาใช้งาน

       ปัจจุบันกล้องรักษาความปลอดภัยนั้นก็มีให้เลือกมากมาย ทั้งระบบการใช้งาน คุณสมบัติและเทคโนโลยีของตัวกล้องเอง ผู้ใช้งานที่ไม่มีความรู้อาจจะเกิดความสับสนในการเลือกซื้อ วันนี้ทาง บริษัท สมาร์ท เบสท์บายส์ จะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อกล้องรักษาความปลอดภัยเพื่อใช้งานภายในบ้าน ให้เหมาะสมตามความต้องการ

สำรวจจุดติดตั้งภายในบ้าน

       เมื่อเรามีความต้องการที่จะติดตั้งระบบกล้องรักษาความปลอดภัยสำหรับบ้านแล้ว สิ่งแรกที่ควรทำก็คือสำรวจพื้นที่ของบ้าน ทั้งภายนอกและภายในบ้านว่าต้องการติดตั้งที่จุดใดบ้าง เพื่อที่จะได้เป็นการออกแบบ ระบบความปลอดภัย ให้ครบถ้วนและครอบคลุม เพราะจำนวนจุดที่ต้องการติดตั้งก็จะมาพร้อมกับจำนวนกล้องที่ต้องนำมาติดซึ่งเกี่ยวข้องกับงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ด้วย ซึ่งขอแนะนำจุดติดตั้งดังนี้

1. หน้าประตูรั้วบ้าน

        ตรงจุดนี้เป็นจุดที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในการติดตั้งกล้องรักษาความปลอดภัย เพราะจะทำให้เราเห็นความเคลื่อนไหวของผู้คนภายนอกได้อย่างชัดเจน เพื่อเป็นการป้องกันภัยเบื้องต้น ช่วยให้สอดส่องผู้ที่ไม่หวังดีที่อาจจะบุกรุกเข้ามาภายในบ้านของเราได้

2. สนามหน้าบ้าน

      บ้านจำนวนมากจะมีพื้นที่ว่างระหว่างรั้วบ้านมาจนถึงตัวบ้านที่เอาไว้เป็นพื้นที่สำหรับสนามหญ้าหรือลานกว้างเอาไว้ทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งการติดตั้งกล้องเอาไว้บริเวณนี้ก็จะทำให้เรามองเห็นผู้บุกรุกที่แอบเข้าในเขตพื้นที่บ้านได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับสมาชิกที่เป็นเด็กได้ เพราะเด็กนั้นมีความซุกซนอาจวิ่งเล่นอยู่ภายรั้วบ้านแล้วเกิดอุบัติเหตุได้ ก็จะทำให้เราคอยดูแลผ่านการดูกล้องได้

3. ห้องโถงหรือห้องรับแขก

      ตรงจุดนี้เป็นจุดแรกที่เข้าถึงได้ง่ายจากประตูบ้าน ซึ่งหากมีผู้บุกรุกเข้ามาในตอนกลางคืนที่เรานอนหลับอยู่ในห้องหรือในเวลาที่ไม่มีคนอยู่บ้าน อย่างน้อยการติดตั้งกล้องเอาไว้จะสามารถนำภาพมาเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อผู้บุกรุกได้

4. ห้องนอน

     เจ้าของบ้านบางคนก็ต้องการติดกล้องเอาไว้ภายในห้อง โดยเฉพาะห้องนอนสำหรับเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุที่อาจจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ การติดตั้งกล้องเอาไว้จะช่วยให้ดูแลความปลอดภัยให้กับบุคคลกลุ่มดังกล่าวได้ หากเกิดเหตุฉุกเฉินก็จะช่วยให้ทราบและเข้าให้การช่วยเหลือได้ทันที

รู้จัก กล้องวงจรปิด แต่ละประเภท

      เมื่อเราสามารถกำหนดจุดสำหรับการติดตั้งกล้องรักษาความปลอดภัยได้แล้ว สิ่งต่อมาเรามาทำความรู้จักกันว่า กล้องรักษาความปลอดภัยนั้นมีกี่แบบ และแบบใดเหมาะสมกับการใช้งานของเรามากที่สุด

1.กล้องแบบมาตรฐาน (Standard Camera)

      เป็นกล้องรูปทรงกระบอก เหมาะสำหรับการใช้งานในบริเวณที่มีแสงสว่างตลอดเวลาเพราะไม่มีระบบบันทึกภาพในที่มืดได้ สามารถเปลี่ยนเลนส์เพื่อเพิ่มมุมมองหรือความคมชัดของกล้องได้

2.กล้องแบบอินฟราเรด (Infarred Camera)

      เป็นกล้องที่มีการใช้หลอดไฟ LED มาติดรอบ ๆ เลนส์กล้องเพื่อให้มีคุณสมบัติที่สามารถบันทึกภาพได้ในเวลากลางคืนอย่างชัดเจน ซึ่งใช้ได้ทั้งภายนอกบ้านและภายในบ้าน โดยระยะการบันทึกของระบบอินฟราเรดนั้นอยู่ที่ 10-30 เมตร ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในที่มืดสนิท

3.กล้องแบบโดม (Dome Camera)

     เป็นกล้องรูปร่างทรงกลมขนาดเล็ก เหมาะสำหรับติดตั้งภายในบ้าน เพราะมีขนาดเล็กและสวยงามกลมกลืนไปกับห้อง มีทั้งระบบอินฟราเรดและไม่มีอินฟราเรดให้เลือกใช้ตามความต้องการ

4.กล้องแบบสปีดโดม (Speed Dome Camera)

     มีรูปทรงเช่นเดียวกับกล้องโดม แต่มีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่า คือสามารถควบคุมให้กล้องหันซ้าย-ขวาหรือหันขึ้น-ลงได้ และยังควบคุมการซูมเข้า-ออกได้แบบอิสระ โดยควบคุมผ่านอุปกรณ์ควบคุมหรือสมาร์ทโฟนได้

5.กล้องแบบไอพี (IP Camera)

     เป็นกล้องที่นำระบบเครือข่าย (Network) เข้ามามีส่วนร่วมในการใช้งาน สามารถส่งข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว เป็น กล้องวงจรปิด wifi ที่ดูภาพได้ตลอดเวลาผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน ค่อนข้างได้รับความนิยมมากเพราะสามารถใช้เป็น กล้องวงจรปิดไร้สายดูผ่านโทรศัพท์ ได้อย่างสะดวก

กล้อง กล้อง cctv แบบไหนที่ควรเลือกไว้ติดตั้งที่บ้าน

      เมื่อเราทราบจุดติดตั้งและรู้จักกล้องแต่ละประเภทกันแล้ว ต่อมาเราก็ต้องเลือกรูปแบบของกล้องที่เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้

1. กล้องที่ใช้การส่งสัญญาณผ่านสาย

       ถือเป็นระบบพื้นฐานของกล้องรักษาความปลอดภัย โดยต้องทำการติดตั้งกล้องไปตามจุดต่างๆภายในบ้านแล้วใช้การเชื่อมต่อสัญญาณจากตัวกล้องกลับมายังเครื่องบันทึก ซึ่งระบบนี้มีข้อดีคือมีความเสถียรในการส่งสัญญาณ เนื่องจากสายที่มีคุณภาพนั้นจะถูกสัญญาณรบกวนได้ยาก แต่ก็มีข้อจำกัดคือหากเดินสายไกลเกินไปจะทำให้ภาพที่ได้ลดความคมชัดไปตามระยะทางที่ไกลขึ้นและยังมีข้อจำกัดของจำนวนกล้องต่อเครื่องบันทึก 1 เครื่อง ที่มีช่องเชื่อมต่อจำกัด ทำให้เพิ่มจำนวนกล้องได้ยาก

2. กล้องวงจรปิดไร้สาย

     เป็นกล้องที่ใช้ระบบการส่งสัญญาณภาพแบบไร้สาย โดยใช้สัญญาณ Wireless ในการส่งสัญญาณภาพจากตัวกล้องไปยังเครื่องบันทึก ซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้องมีการเดินสายให้ยุ่งยาก สามารถติดตั้งในจุดที่สายสัญญาณเข้าไม่ถึงได้ แต่ก็มีข้อด้อยคือมีความเสถียรของการส่งสัญญาณน้อยกว่า

3. กล้องแบบเครือข่าย

      หรือที่เรียกว่า IP Camera เป็นกล้องที่ใช้ระบบอินเทอร์เน็ตมาใช้ส่งสัญญาณที่เราสามารถดูภาพจากกล้องได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือผ่านแอปพลิเคชันในสามาร์ทโฟน มีความสะดวกสบายในการใช้งานเป็นอย่างมากและได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น 

โดยทาง บริษัท สมาร์ท เบสท์บายส์ นั้นมีกล้องรักษาความปลอดภัยให้เลือกตามความต้องการ ดังนี้

• กล้องรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ Smart IP Camera ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตภายในบ้านได้อย่างง่ายดาย มี Motion Sensor เซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว หมุนตามคน วัตถุที่เคลื่อนที่ เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุด สามารถดูภาพจากกล้องผ่านแอปพลิเคชันได้ตลอดเวลา

• กล้องวงจรปิดพลังงานแสงอาทิตย์อัจฉริยะ Smart Outdoor Solar Camera เป็นกล้องที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ผ่านแบตเตอรี่ ไม่ต้องกังวลเรื่องไฟฟ้าดับแล้วกล้องจะไม่ทำงาน และยังช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ นอกจากนี้ยังทำให้เราเปลี่ยนจุดติดตั้งได้ตามที่ต้องการตลอดเวลา สามารถดูภาพผ่านสมาร์ทโฟนได้ตลอดเวลา ใช้งานเป็น กล้องวงจรปิดไร้สายดูผ่านโทรศัพท์ อุ่นใจได้แม้ไม่ได้อยู่บ้าน

ประโยชน์ของการติดตั้งระบบกล้องรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน

1. ช่วยสังเกตการณ์

      เราสามารถดูความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติได้ตลอดเวลาผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนได้ง่ายๆ ด้วยระบบกล้องที่มีความคมชัดสูง เชื่อมต่อเข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง กล้องรักษาความปลอดภัยบางรุ่นยังมีระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแล้วแจ้งเตือนมายังแอปพลิเคชันให้เรารู้ตัวได้ทันที

2. ช่วยบันทึกหลักฐาน

      แม้การติดตั้งกล้องเอาไว้จะช่วยรักษาความปลอดภัยเบื้องต้นได้ แต่สำหรับพวกโจรหรือขโมยแล้วอาจจะไม่เกรงกลัวในการถูกบันทึกภาพ การที่เรามีกล้องเอาไว้บันทึกจะทำให้เรามีหลักฐานการกระทำผิดของคนเหล่านั้นมาใช้ในการดำเนินคดีได้ กล้องรุ่นใหม่ๆนั้นสามารถบันทึกภาพได้ที่ความละเอียดสูง มีความคมชัดเพียงพอในการใช้งาน

3. ช่วยดูแลเด็ก

    กล้องรักษาความปลอดภัยนั้นนอกจากจะช่วยป้องกันภัยจากโจรผู้ร้ายแล้ว ยังนำมาใช้ประโยชน์ในการดูแลเด็กได้ การติดกล้องเอาไว้ตามบริเวณต่าง ๆ ของบ้านจะทำให้เราดูแลความปลอดภัยของเด็กที่ยังดูแลตัวเองได้ไม่ดีเพียงพอ จะช่วยให้พ่อ-แม่เกิดความอุ่นใจแม้ในเวลาที่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่เพียงลำพัง

     ความปลอดภัยของสมาชิกภายในครอบครัวและทรัพย์สินภายในบ้านเป็นสิ่งสำคัญ การให้ความสำคัญของระบบกล้องรักษาความปลอดภัยภายในบ้านจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย การลงทุนติดตั้งกล้องเอาไว้จะช่วยให้เกิดความอุ่นใจและคุ้มค่าเพียงพอที่จะลงทุนเพื่อบ้านและคนที่เรารัก