แจกบทความฟรี
หลอดไฟอัจฉริยะ ไอเทมดีๆ ที่ควรมีไว้ในบ้านยุค smart home
smart home คือการออกแบบระบบภายในบ้านด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะด้วยอุปกรณ์ทันสมัยหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด ระบบล็อกประตูหน้าต่างอัจฉริยะ ระบบควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และอีกระบบหนึ่งที่จะทำให้บ้านของเราทันสมัยและมีความสะดวกสบายมากขึ้น คือการติดตั้งระบบแสงสว่างแบบอัจฉริยะเอาไว้ใช้งาน
ด้วยยุคสมัยที่สมาร์ทโฟนไม่ได้เป็นเพียงโทรศัพท์มือถือธรรมดาอีกต่อไป แต่ยังช่วยให้เราควบคุมทุกสิ่งภายในบ้านได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ทาง บริษัท สมาร์ท เบสท์บายส์ ผู้จำหน่ายและวางระบบ บ้านอัจฉริยะ จะชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับ หลอดไฟอัจฉริยะ หนึ่งในไอเทมดี ๆ ที่ควรมีไว้สำหรับบ้านยุคใหม่ รวมถึงวิธีการใช้งานระบบแสงสว่างอัจฉริยะให้มีความสะดวกสบายและทันสมัย
หลอดไฟอัจฉริยะ (Smart Bulb) คืออะไร
เป็นหลอดไฟประเภท LED ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้สามารถใช้งานกับระบบแสงสว่างอัจฉริยะ (Smart Lighting) ภายในบ้านได้ ซึ่งทำให้เจ้าของบ้านสามารถควบคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้านได้ผ่านแอปพลิเคชัน หรือใช้งานควบคู่กับระบบอัจฉริยะอื่นๆร่วมด้วย เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานที่มากขึ้น ทั้งการสั่งงานเปิด-ปิดไฟผ่านสมาร์ทโฟน การปรับระดับแสงหรือสีของหลอดไฟตามอารมณ์เพื่อสร้างบรรยากาศภายในบ้าน หรือใช้งานตั้งเวลาสำหรับการเปิด-ปิดไฟได้แม้ไม่อยู่บ้าน ซึ่งหลอดไฟแต่ละรุ่นก็มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างกันตามความต้องการของผู้ใช้สอยเอง
คุณสมบัติเด่นของหลอดไฟแบบอัจฉริยะ
1.ปรับความสว่างได้
เราสามารถปรับความสว่างของหลอดไฟได้ตามต้องการ ให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำ เช่น การอ่านหนังสือ ดูหนัง นั่งพักผ่อน การปรับแสงสว่างจะช่วยในเรื่องของการถนอมสายตาได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับติดตั้งไว้ทุกห้อง
2.ปรับเฉดสีได้ตามอารมณ์
หลอดไฟที่ทาง บริษัท สมาร์ท เบสท์บายส์ มีจำหน่ายนั้นสามารถปรับเฉดสีได้มากกว่า16 ล้านสี ควบคุมจังหวะการกระพริบของหลอดไฟได้ และยังเช็คสถานะผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างง่ายดาย มีให้เลือกทั้งขนาด 65 watt และ 80 watt ตามความต้องการ มีฟีเจอร์พิเศษที่ปรับสีเองแบบอัตโนมัติตามช่วงเวลาหรือโทนเสียงของเพลงที่เปิดไว้ สร้างความผ่อนคลายในเวลาพักผ่อนหรือกิจกรรมสังสรรค์เป็นอย่างดี
3.ควบคุมง่าย
เราสามารถควบคุมการเปิด-ปิดไฟภายในบ้านได้ผ่านแอปพลิเคชันที่หน้าจอสมาร์ทโฟน ที่ใช้ได้ทั้งระบบ iOS และ Android ในบางรุ่นยังมีระบบสั่งการด้วยเสียงเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นอีกด้วย
4.เช็คสถานะได้ตลอดเวลา
เราสามารถเช็คสถานะของหลอดไฟได้ทุกหลอดที่ติดตั้งเอาไว้ว่าดวงใดมีสถานะเปิดหรือปิดเอาไว้ ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมปิดไฟแล้วต้องเดินสำรวจไปทุกห้องให้เหนื่อย เพียงแค่เปิดแอปพลิเคชันก็รู้ได้ทันทีและควบคุมได้ทุกเวลา
5.มีระบบอัตโนมัติ
เมื่อเราใช้หลอดไปแบบอัจฉริยะร่วมกับอุปกรณ์อื่น เช่น Smart switch จะทำให้สามารถตั้งเวลาสำหรับการเปิด-ปิดไฟในแต่ละจุดได้ให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำวัน โดยที่ไม่ต้องเปิด-ปิดเองทุกครั้ง หรือหากเราใช้งานร่วมกับ Motion Sensor ที่จะสั่งงานให้ไฟดับเองเมื่อตรวจไม่พบความเคลื่อนไหวภายในห้อง ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวนี้จะประมวลผลและส่งสัญญาณไปที่หลอดไฟว่าไม่มีใครอยู่ภายในห้อง ก็จะทำการปิดไฟเพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน นอกจากนี้หากใช้ร่วมกับระบบกลอนอัจฉริยะ จะสามารถควบคุมให้ไฟเปิดเองเมื่อมีคนเปิดประตูเข้ามาในห้อง ช่วยในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากความมืดได้
6.ประหยัดพลังงาน
หลอดไฟแบบอัจฉริยะนั้นจะเป็นหลอดแบบ LED ที่มีคุณสมบัติในการประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดธรรมดาถึง 50-60 เปอร์เซ็น ช่วยให้เราประหยัดค่าไฟได้ นอกจากนี้หลอด LED นั้นไม่สะสมความร้อนเหมือนหลอดตะเกียบ ทำให้อุณหภูมิในห้องที่ใช้งานไม่ร้อนจากแสงของหลอดไฟ ช่วยประหยัดพลังงานจากเครื่องปรับอากาศลงได้อีกทางหนึ่ง และที่สำคัญให้ความสว่างมากกว่าหลอดธรรมดาแต่กินไฟน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด
7.อายุการใช้งานยาวนาน
ด้วยคุณสมบัติของหลอด LED ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน หมดปัญหาหลอดไฟที่ใช้อยู่เสียง่ายไม่มีคุณภาพ ด้วยการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟระบบอัจฉริยะ LED
8.มีระบบไฟสำรอง
หลอดไฟบางรุ่นยังมีระบบสำรองไฟไว้ภายในหลอดทำให้สามารถใช้เป็นไฟสำรองเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าดับได้ หรือบางรุ่นยังพิเศษกว่านั้นคือสามารถเชื่อมต่อ USB ได้ ทำให้ใช้เป็นหลอดไฟที่ใช้นอกสถานที่แทนไฟฉายได้อีกด้วย ถือเป็นการเพิ่ม ระบบความปลอดภัย ภายในบ้านได้เป็นอย่างดี
วิธีการเลือกซื้อหลอดไฟแบบอัจฉริยะ
หลอดไฟแบบอัจฉริยะถือเป็นเทคโนโลยีที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ด้วยคุณสมบัติในการปรับแสงและสีของหลอดไฟได้อย่างหลากหลาย มีการควบคุมที่ง่ายเหมาะสมกับวิถีชีวิตคนยุคใหม่ แต่หลอดไฟประเภทนี้ก็มีมากมายในท้องตลาด จึงต้องมีวิธีในการเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งาน
1.ราคา
ถือเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อหลอดไฟแบบอัจฉริยะไว้ใช้งาน การกำหนดงบประมาณจะช่วยให้เราเลือกฟังก์ชั่นของหลอดไฟให้สอดคล้องกับงบประมาณที่ตั้งไว้ เพราะการวางระบบแสงสว่างภายในบ้านจำเป็นต้องใช้หลอดไฟมากกว่า 1 หลอด นอกจากนี้ยังต้องเปรียบเทียบราคาว่าสินค้าตัวไหนเหมาะสมกับการใช้งานของเรามากที่สุดภายใต้งบประมาณที่ตั้งไว้
2.คุณภาพของสินค้า
คุณภาพถือเป็นเรื่องสำคัญในการเลือกซื้อ เราควรดูวัสดุการผลิต การประกอบของสินค้า ว่ามีความเรียบร้อยดีหรือไม่ นอกจากนี้ยังต้องดูค่าความสว่าง อายุการใช้งาน เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป และควรเลือกหลอดไฟจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ มีมาตรฐานรับรอง การใช้งานสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพอาจทำให้เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายจากการใช้งานได้
3.รูปแบบสีและความสว่าง
หลอดไฟแบบอัจฉริยะนั้นนอกจากจะใช้งานเหมือนหลอดไฟทั่วไปแล้ว ยังสามารถปรับเฉดสีได้มากกว่า 16 ล้านเฉดสี และยังปรับความสว่างได้ด้วย เราควรทดสอบการใช้งานก่อนที่จะเลือกซื้อว่าเฉดสีของหลอดไฟรุ่นนั้นตรงกับความชอบและลักษณะการใช้งานของเราหรือไม่ โดยปกติทางร้านค้าจะมีวิดีโอสาธิตหรือให้เราทดลองใช้งานได้ก่อนเพื่อความพึงพอใจ
4.มีแอปพลิเคชันรองรับ
การใช้งานหลอดไฟแบบอัจฉริยะให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดต้องใช้ควบคู่กับแอปพลิเคชันผ่านการควบคุมจากสมาร์ทโฟน นับเป็นหัวใจหลักของการใช้งานหลอดไฟประเภทนี้ เราควรซื้อหลอดไฟที่ทางผู้ผลิตมีแอปพลิเคชันรองรับการใช้งาน ที่สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ IOS และ Android มีระบบการใช้งานที่ง่าย เชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว ดูสถานะการทำงานได้ตลอดเวลา บางรุ่นยังสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ เพิ่มความสะดวกสบายขั้นสูงสุดให้กับบ้านของเรา
จุดที่ควรติดตั้งระบบแสงสว่างอัจฉริยะ
1.บริเวณรั้วบ้าน
จุดนี้เป็นบริเวณที่จำเป็นต้องมีระบบไฟส่องสว่างเพื่อเป็น ระบบความปลอดภัย เราอาจจะทำการสั่งงานให้เปิดไฟก่อนที่เราจะมาถึงบ้าน การสั่งเปิดไฟด้วยแอปพลิเคชัน จะทำให้เราไม่ต้องลงจากรถมาเพื่อเปิดไฟ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้มากขึ้น
2.ห้องรับแขก
เป็นห้องที่สมาชิกภายในบ้านเอาไว้เป็นพื้นที่ในการพักผ่อนร่วมกัน อาจจะมีการดูหนัง ฟังเพลงร่วมกัน ในบางครั้งก็มีเพื่อนฝูงมาเยี่ยมที่บ้าน การใช้หลอดไฟที่สามารถปรับเฉดสีได้จะเป็นการเพิ่มอรรถรสในการดูหนัง ฟังเพลง เฉลิมฉลองร่วมกัน ให้วันพักผ่อนกลายเป็นวันพิเศษสำหรับทุกคนได้
3.ห้องนอน
สำหรับห้องนอนที่ทุกคนก็คงอยากให้มีความสบายในการพักผ่อน การติดตั้งหลอดไฟแบบอัจฉริยะไว้ในห้องนอน จะช่วยให้เราควบคุมการเปิด-ปิดไฟโดยที่เราไม่ต้องลุกมาจากเตียง เพราะบางคนมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ การลุกจากเตียงมาปิดไฟอาจจะทำให้นอนหลับอีกครั้งได้ยาก หรือในบางครั้งที่เราตื่นขึ้นมากลางดึก การลุกไปเปิดไฟท่ามกลางความมืดอาจก่อให้เกิดอันตรายจากการเดินชนสิ่งต่างๆจนบาดเจ็บ การควบคุมการเปิด-ปิดไฟแบบอัจฉริยะ ผ่าน Smart switch จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเราได้
4.โรงจอดรถ
ในโรงจอดรถนั้นเราอาจจะไม่ได้เข้าไปใช้งานบ่อยครั้งนัก การติดตั้งหลอดไฟแบบอัจฉริยะที่มีระบบ Motion Sensor ที่สั่งงานให้ไฟส่องสว่างติดเองเมื่อมีคนเดินเข้าไปหรือมีการขับรถเข้าไป จะช่วยให้เราไม่ต้องเปิดไฟด้วยตนเอง สะดวกสบายมากขึ้น นอกจากนี้ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวจะสั่งการให้ไฟปิดเองเมื่อไม่มีคนอยู่ภายในโรงจอดรถ
ระบบแสงสว่างอัจฉริยะนั้น ช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น หมดกังวลเรื่องการลืมปิดไฟ ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยและยังสามารถใช้หลอดไฟเพื่อเพิ่มบรรยากาศที่ผ่อนคลายได้ในทุกๆวัน