แจกบทความฟรี
แนะนำการวาง ระบบความปลอดภัย ที่ร้านอาหารทุกร้านควรมี
ร้านอาหารในประเทศไทยมีรูปแบบต่างๆ มากมาย ทั้งขนาดเล็กตั้งอยู่ริมถนน รวมไปถึงร้านขนาดใหญ่มีเชนสาขาทั่วประเทศ ซึ่งร้านอาหารที่มีการแบ่งสัดส่วนภายในร้านอย่างชัดเจน อย่างร้านอาหารจากแบรนด์ชื่อดัง หรือร้านของธุรกิจ SMEs ที่ได้รับความนิยมจากคนในพื้นที่ มักมีองค์ประกอบที่สำคัญภายในร้านได้แก่ หน้าร้าน แคชเชียร์ โรงครัว และหลังร้าน การรักษาความปลอดภัยในพื้นที่จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บริเวณหน้าร้านและแคชเชียร์อาจมีบุคคลภายนอกเข้ามาขโมยทรัพย์สิน ส่วนครัวก็เป็นพื้นที่ซึ่งอาจมีอันตรายจากอุบัติเหตุไฟไหม้ หรือแก๊สระเบิด ระบบความปลอดภัย ของร้านอาหารจึงควรครอบคลุมทุกพื้นที่ของร้าน เพื่อป้องกันการเสียหายของทรัพย์สิน และเป็นการตรวจสอบการทำงานของพนักงานด้วยว่ามีการทุจริตหรือไม่ ดังนั้นเมื่อติดตั้ง กล้องวงจรปิด และระบบเตือนภัยอัจฉริยะต่างๆ
จะช่วยลดภาระการดูแลความปลอดภัยของเจ้าของร้าน เพราะสังเกตเหตุการณ์ภายในร้านได้ทุกเวลาผ่านโทรศัพท์มือถือ ส่วนลักษณะของกล้องและความปลอดภัยที่ควรมีคืออะไรบ้าง มาดูกันเลย
ข้อควรรู้ของการติดตั้งกล้องวงจรปิดแบบมีสาย
เมื่อตัดสินใจใช้งานกล้องวงจรปิดชนิดมีสาย แต่ไม่ทราบว่ากล้องวงจรปิด CCTV analog ชนิดนี้เหมาะกับร้านของคุณหรือไม่ มีข้อพิจารณาอยู่ 2 ประการได้แก่
1. สถานที่ติดตั้งและการออกแบบภายในร้าน
กล้องวงจรปิดแบบมีสายจำเป็นต้องเชื่อมต่อกล้องกับกล่องบันทึกภาพ (DVR) ด้วยสายไฟอย่างน้อย 2 ชนิดคือ สายเชื่อมต่อระหว่างกล่อง DVR กับจอภาพ และกล่อง DVR กับกล้องวงจรปิด ร้านที่ต้องการใช้กล้องไร้สายจำเป็นต้องออกแบบพื้นที่วางสายไฟ โดยมั่นใจได้ว่าจะไม่มีพนักงานภายในร้าน หรือลูกค้าภายนอกเดินเข้ามาเหยียบจนทำให้เกิดความเสียหายในการบันทึกภาพ และควรออกแบบให้สายไฟสามารถเข้าถึงห้องแสดงจอภาพ โดยไม่เกะกะสร้างความรำคาญแก่ลูกค้า
2. จำนวนของกล้อง – หากร้านอาหารของคุณมีขนาดใหญ่มาก ต้องเชื่อมต่อกล้องวงจรปิดจากหลายพื้นที่ กล่อง DVR จะรองรับจำนวนกล้องวงจรปิดที่ต้องการเชื่อมต่อได้มาก พอร์ตเชื่อมต่อของกล่องบางชนิดสามารถรองรับจำนวนกล้องที่ติดตั้งได้ถึง 30 ตัว อย่างไรก็ตามแม้จะสามารถรองรับกล้องได้มากแค่ไหน ยังต้องใช้สายไฟที่ยาวมากเพียงพอเชื่อมต่อจากกล้องถึงกล่อง ขนาดของสายไฟจะมีความยาวตั้งแต่ 10 – 40 เมตร เห็นได้ว่าเป็นข้อเสียอย่างหนึ่งที่ตัวกล้องสามารถติดตั้งได้ในขอบเขตที่จำกัดตามความยาวของสายไฟ อีกทั้งไม่สามารถซ่อนกล้องในมุมอับ และมิจฉาชีพสามารถสังเกตสายไฟระหว่างกล่อง DVR จนถึงกล้องวงจรปิด หากได้เข้ามาสังเกตการณ์ในระหว่างนั่งรอออเดอร์ หรือรับประทานอาหารอยู่ เมื่อถึงเวลาโจรกรรมก็สามารถหลบมุมกล้อง และอาจถึงขั้นนำกล่องไปทิ้งทำลายหลักฐานได้
แม้ว่ากล่อง DVR จะเชื่อมต่อกับมือถือด้วยสัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่หากผู้ดูแลร้านอาหารไม่ได้สังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลา กล้องวงจรปิดที่ลงทุนซื้อมาก็ไม่มีความหมาย อย่างไรก็ตามข้อดีของกล้องมีสายจะมีความคมชัด และรายละเอียดของภาพสูงกว่ากล้องไร้สาย โอกาสสัญญาณภาพขาดหายระหว่างฝนตกค่อนข้างต่ำ และมีคุณสมบัติตัดเสียงรบกวนที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างบันทึกภาพได้
จากข้อด้อยของกล้องมีสายชนิด Analog ตามที่กล่าวมา ปัจจุบันจึงได้พัฒนากล้อง ip ชนิดมีสายที่มีความคมชัดสูงกว่า รายละเอียดภาพสูงถึง 10 ล้านพิกเซล ใช้สาย Lan เชื่อมต่อเพียงเส้นเดียว ไม่เกะกะจนเป็นจุดสังเกต และยังมีอินฟราเรทติดตั้งหน้ากล้อง ทำให้การบันทึกภาพในเวลากลางคืนมีประสิทธิภาพสูงกว่ากล้อง CCTV ชนิด analog แบบเดิม
กล้องวงจรปิดไร้สายดีอย่างไร ทำไมถึงควรติดตั้ง
กล้องวงจรปิดไร้สาย เหมาะกับร้านอาหารที่มีขนาดย่อม โดยทั่วไปแล้วร้านอาหารส่วนมากมักมีชั้นเดียว และมีพื้นที่รักษาความปลอดภัยมีเพียงไม่กี่แห่ง เช่น บริเวณทางเข้า-ออกของผู้ใช้บริการ หรือจุดแคชเชียร์ เป็นต้น เมื่อลักษณะของพื้นที่มีจำกัด การใช้งานกล้องไร้สายจะแสดงประสิทธิภาพออกมาเต็มที่ กล่าวคือ กล่องรับภาพเป็นชนิด NVR ที่มีพอร์ตรองรับกล้องเพียงไม่กี่ตัว กล้องเพียง 1 – 2 ตัว ก็แสดงภาพได้ครบตามที่ต้องการ และลักษณะของการเชื่อมต่อ โดยจะนำ HDD ของกล้องเสียบเข้ากับ NVR เพียงเท่านี้ก็เริ่มใช้งานกล้องไร้สายได้โดยไม่ต้องนำสายต่างๆ มาเชื่อมต่อกัน ในด้านของการติดตั้ง กล้องวงจรปิดไร้สายจะทำได้ง่ายกว่าชนิดมีสาย ผู้ดูแลร้านอาหารสามารถซื้อได้ตามช่องทาง E-commerce หรือร้านค้าทั่วไป แต่คุณภาพของสินค้าอาจด้อยกว่าร้านค้าที่มีบริการติดตั้งและดูแลหลังการขาย เนื่องจากกล้องไร้สายบางชนิด จำเป็นต้องชาร์จทุกๆ 3 เดือน แทนที่การติดตั้งกล้องมุมสูงจะเห็นภาพได้ชัด กลับกลายเป็นความลำบากเมื่อครบ 3 เดือน ต้องปีนเอากล้องไปชาร์จไฟถึงจะใช้งานต่อได้ กล้องวงจรปิดแบบไร้สายจึงควรมีระบบชาร์จไฟในตัว 2 แบบคือ
1. ชาร์จไฟกับผนังกำแพง- โดยปกติการติดตั้งกล้องชนิดนี้ ช่างผู้ทำการติดตั้ง จะเชื่อมต่อปลั๊กไฟเข้ากับกล้องแบบไร้รอยต่อ เมื่อสังเกตจากภายนอกจะไม่ทราบว่ากล้องเสียบเข้ากับปลั๊กไฟอยู่ ทำให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา
2. ระบบ solarcell – นวัตกรรมใหม่ของกล้องวงจรปิดไร้สายที่ช่วยประหยัดค่าไฟภายในร้านอาหารได้ มีข้อเสียคือ ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง พื้นที่ในการติดตั้งจำกัด เหมาะกับร้านอาหารรูปแบบ stand alone ซึ่งติดริมถนนมีแสงอาทิตย์ส่องอยู่ตลอดเวลา เพื่อทำการชาร์จไฟในเวลากลางวัน นำไฟส่วนเกินไปใช้ในเวลากลางคืน และกล้องไร้สายบางแบรนด์มีคุณสมบัติสามารถสั่งการได้ในระยะไกล กล่าวคือกล้อง CCTV รูปแบบปกติจะมีมุมกล้องจำกัด หากต้องการเปลี่ยนมุมกล้องต้องเสียเวลาในการย้ายสถานที่ติดตั้ง แต่กล้องวงจรปิดไร้สายสามารถปรับมุมกล้องได้โดยไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้าย ผู้ใช้งานเพียงแค่สั่งการในแอพพลิเคชั่น กล้องจะทำการหมุนให้เห็นพื้นที่ใกล้เคียงที่มากกว่ามุมกล้องปกติ และยังหมุนกล้องตามการเคลื่อนไหวของบุคคลภายนอกด้วยระบบอัจฉริยะอย่าง Motion sensor ในขณะที่กล้องวงจรปิดไร้สายรุ่นเก่าจะขาดฟังก์ชันควบคุมระยะไกล ทำได้เพียงแสดงผลของรูปภาพและบันทึกวิดีโอได้ผ่านสมาร์ทโฟน
นอกจากนี้กล้องไร้สายยังเหมาะกับร้านอาหารที่ไม่ได้วางแผนติดตั้งกล้องวงจรปิดตั้งแต่แรก เหตุเพราะในช่วงแรกร้านยังมีขนาดเล็ก เป็นธุรกิจภายในครอบครัว เมื่อเพิ่มจำนวนพนักงานและมีลูกค้ามากขึ้น กล้องไร้สายจะช่วยให้เจ้าของร้านติดตั้งได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องเดินสายไฟใหม่ให้เสียเวลา อย่างไรก็ตามกล่อง NVR ของกล้องไร้สายมีความแตกต่างจากกล่อง DVR ในด้านของการรองรับกล้องวงจรปิด นั่นคือ NVR จะต้องใช้ตามยี่ห้อที่ระบุมาให้เท่านั้น ไม่สามารถเอาอุปกรณ์ของยี่ห้ออื่นมาใช้พ่วงได้แบบเดียวกับ DVR ดังนั้นหากต้องการเอากล้องวงจรปิดยี่ห้อ A มาสวมกับ NVR แบรนด์ B จะทำไม่ได้ ดังนั้นกล่องและกล้องวงจรควรเป็นยี่ห้อเดียวกัน ไม่สามารถใช้ข้ามยี่ห้อได้
ระบบเตือนควันรั่วและก๊าซก็จำเป็นในร้านอาหาร
ระบบตรวจจับควัน (Smoke Detector) จำเป็นสำหรับการติดตั้งเพิ่มความปลอดภัยภายในครัว Smoke Detector มีประโยชน์อย่างมากเมื่อติดตั้งในส่วนของพื้นที่หน้าร้านอาหาร ซึ่งอาจมีไฟไหม้เกิดขึ้น โดยเฉพาะร้านรูปแบบ Fine Dining และร้านสไตล์ยุโรปที่ตกแต่งโต๊ะอาหารด้วยเชิงเทียน มือของลูกค้าอาจปัดเทียนตกไปโดนผ้าปูโต๊ะจนเกิดไฟลุกขึ้น หรือในอีกกรณีหนึ่งคือ เวลาร้านอาหารปิดร้านเมื่อพนักงานกลับบ้านกันไปหมด อาจมีควันเกิดขึ้นหน้าร้านจากเหตุไฟไหม้จากหม้อแปลงระเบิด หรือไฟไหม้จากอาคารใกล้เคียงจนลามมาถึงร้านอาหาร ซึ่ง Smoke Detector จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้เจ้าของร้าน หรือพนักงานที่พักอาศัยอยู่อีกชั้นหนึ่งเพื่อหนีรอดจากสถานการณ์ฉุกเฉินได้ อย่างไรก็ดีร้านอาหารควรพิจารณาติดตั้ง Gas Detector ใกล้เคียงกับถังแก๊สร่วมด้วย เพื่อป้องกันเหตุจากถังแก๊สระเบิด ซึ่งร้านอาหารในประเทศไทยบางร้านไม่ได้ติดตั้งเครื่องมือตรวจจับชนิดนี้ เนื่องจากมองว่าเป็นค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น นั่นเป็นความคิดที่ประมาทอยู่มากทีเดียว เพราะรู้หรือไม่ว่าถังแก๊สที่นำมาส่งในครัวผ่านการใช้งานมาหลายครั้ง ย่อมมีโอกาสที่ระบบตัดแก๊สเสื่อม หากติดตั้งระบบตรวจจับแก๊สจะช่วยเตือนภัยแก่ผู้ใช้งานโดยรอบ ให้สามารถหลบหนีออกจากพื้นที่ได้ทัน
อย่างไรก็ดี Gas detector มีคุณสมบัติตรวจจับแก๊สได้เพียง 4 ชนิด โดยเป็นแก๊สที่พบได้ในชีวิตประจำวัน หากผู้ใช้งานต้องการตรวจจับแก๊สได้มากขึ้น เช่น แก๊สประเภทที่พบในโรงงาน จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ชนิดนี้เพิ่มเติม
เห็นได้ว่าระบบความปลอดภัยที่ทุกร้านอาหารควรมีแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ 1.ระบบสอดส่องป้องกันการโจรกรรม และ 2.ระบบตรวจจับสัญญาณที่อาจเกิดจากไฟไหม้ ซึ่งทาง smart safety service ได้มีอุปกรณ์ช่วยรักษาความปลอดภัยครบวงจร เช่น กล้องวงจรปิดไร้สาย กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ รวมไปถึงบริการติดตั้ง และสินค้าทุกชิ้นมีการรับประกันใช้งานได้นานหลายปี ช่วยให้เจ้าของร้านอาหารวางใจ
ในเรื่องระบบความปลอดภัยอย่างแน่นอน