แนะนำอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ที่คนสร้างบ้านอัจฉริยะยุคใหม่ ห้ามพลาด

           บ้านอัจฉริยะ กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะควบคุมการใช้งานได้ง่ายผ่านสมาร์ทโฟนแล้ว ยังมีระบบแจ้งเตือนและระบบต่าง ๆ ที่สร้างมาเพื่อรองรับความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยได้มากกว่า รวมถึงมีการออกแบบให้มีความทันสมัย เข้ากับบ้านรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว วันนี้เราจะขอแนะนำ 7 อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ที่คนสร้างบ้านยุคใหม่ห้ามพลาด ไปดูกันว่าอุปกรณ์แต่ละอย่างจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง

1.กล้องวงจรปิด 

           ในยุคสมัยที่ไว้ใจใครได้ยาก การมีหลักฐานเพื่อใช้ตรวจสอบย้อนหลัง หากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติย่อมมีประโยชน์อย่างแน่นอน โดย กล้อง cctv (Closed-circuit television) ก็เป็นตัวช่วยในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจุบัน กล้องวงจรปิด wifi Smart IP Camera เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมใน บ้านอัจฉริยะ ยุคใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่มีตัวปล่อยสัญญาณ wifi อยู่ที่บ้านกันอยู่แล้ว การใช้งานจึงมีความสะดวกมาก เพียงแค่เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนโดยใช้สัญญาณ wifi  ก็จะสามารถควบคุมการใช้งาน ตรวจสอบจากระยะไกลได้จากทุกที่ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต

            นอกจากนี้ก็มีระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว รวมถึงสามารถสนทนาโต้ตอบกันได้ด้วย กล้องวงจรปิดแบบไร้สายนี้มีทั้งแบบ fix มุม และแบบที่สามารถหมุนได้ 360 องศา เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานได้มากขึ้น โดยเหมาะสำหรับการติดตั้งในห้องผู้สูงอายุ เด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง โดยปัจจุบันก็มีกล้องที่มี เซ็นเซอร์อุณหภูมิ ช่วยให้สามารถตรวจสอบผู้ที่มีอุณหภูมิไม่ปกติเหมาะสำหรับการใช้งานในบริเวณที่มีคนเข้า-ออกมาก เพื่อระมัดระวังการแพร่กระจายของโรคที่มีอาการไข้เป็นอาการเด่น อย่างเช่น โรคโควิด-19 ด้วย

2.Switch เปิดปิดไฟอัจฉริยะ

            หลายคนมักจะประสบปัญหาลืมว่าเปิดไฟทิ้งไว้หรือไม่ ทำให้มีความกังวล และเสียเงินไปเปล่า ๆ หากลืมปิดจริง ปัญหานี้จะหมดไปด้วยการติดตั้ง Lighting Smart switch สวิตช์ไฟอัจฉริยะที่สามารถควบคุมและตรวจสอบการทำงานได้ผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ โดยใช้ระบบ Wi-Fi วัสดุภายนอกทำจากกระจกนิรภัย ป้องกระแสไฟรั่วและไฟช็อตได้

           รวมถึงมีโหมดสแตนด์บายที่มีไฟ LED ส่องสว่าง อยู่เสมอ ช่วยให้หาสวิตช์ไฟได้ง่าย ลดการเกิดอุบัติเหตุและลดการเสียเวลาได้อย่างสมบูรณ์แบบ การติดตั้ง สามารถใช้แทนสวิตช์ไฟเดิมได้เลยไม่ต้องเดินสายไฟใหม่ เปลี่ยนผ่านบ้านยุคเก่าเป็นบ้านอัจฉริยะได้ภายในพริบตา นอกจากนี้ด้วยรูปลักษณ์ที่มีความเรียบง่าย มีทั้งสีขาวและสีดำ จึงสามารถตกแต่งให้เข้ากับบ้านได้หลายรูปแบบ จะเป็นสายมินิมอล หรือสายโมเดิร์นก็เหมาะสมทั้งสิ้น

3.หลอดไฟอัจฉริยะ 

           หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “บรรยากาศเปลี่ยน ความรู้สึกก็เปลี่ยน” แต่เราจะมีวิธีเปลี่ยนบรรยากาศแบบง่าย ๆ ได้อย่างไรล่ะ? คำตอบคือเลือกใช้ หลอดไฟอัจฉริยะ LED Smart Bulb 80 w ที่สามารถเปลี่ยนสีได้มากกว่า 16 ล้านสี เชื่อมต่อได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชันโดยใช้ระบบ Wi-Fi และ Bluetooth ปรับเปลี่ยนเฉดสี ควบคุมการใช้งาน รวมทั้งสามารถสั่งการด้วยเสียงได้ เมื่อใช้ร่วมกับ แอปพลิเคชัน Alexa หรือ Google assistant เพิ่มความสะดวกง่ายดายให้กับการเปลี่ยนบรรยากาศได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมการปิดเปิด และตรวจสอบการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้ลดความกังวลว่าลืมปิดไฟหรือไม่ ได้แบบหมดจด รวมไปถึง หลอดไฟอัจฉริยะ เป็นหลอดแบบ LED ที่ขึ้นชื่อว่ามีความทนทานและประหยัดพลังงานได้มากกว่าหลอดไฟธรรมดาถึง 60 เปอร์เซ็นต์

4.กริ่งประตูอัจฉริยะ

             ประตูเป็นด่านแรกของการต้อนรับคนนอกบ้าน จะดีกว่าไหมถ้าเรารู้ก่อนว่าคนที่มากดกริ่งที่หน้าบ้านเป็นใคร และช่วยให้เตรียมตัวรับมือได้ดีมากกว่าเดิม digital door bell กริ่งประตูอัจฉริยะที่สามารถแจ้งเตือนเจ้าของบ้านมาพร้อมกับฟังก์ชันที่สามารถเห็นหน้าผู้มาเยือน โดยเลือกพูดคุยผ่านไมโครโฟนที่ตัวเครื่องหรือผ่านวิดีโอคอลในแอปพลิเคชันก็ได้ ช่วยให้รับสายได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา อย่างเช่น เวลาที่เราไม่สะดวก แต่มีคนมาส่งของ เราก็อาจจะแจ้งว่าให้วางไว้หน้าบ้านโดยไม่ต้องรีบวิ่งออกมารับก็ได้ นอกจากนี้ยังมีเซนเซอร์อินฟราเรดช่วยให้เห็นภาพชัดเจน ทั้งกลางวันและกลางคืน รวมถึงมี ระบบความปลอดภัย ตรวจจับการเคลื่อนไหว ซึ่งจะแจ้งเตือนเมื่อมีการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต ด้วยมุมมองภาพที่กว้างกว่า 160 องศา ช่วยให้จับภาพครอบคลุมบริเวณประตูหน้าบ้านอย่างแน่นอน

5.ตัวตรวจจับควันอัจฉริยะ

            ควันไฟจากการทำอาหารเป็นตัวบ่งบอกความมีชีวิตชีวาคู่กับครัวไทยมาอย่างยาวนาน แต่ปัจจุบันแนวโน้มการทำอาหารก็เปลี่ยนไปเนื่องจากผู้คนมีจำนวนมากขึ้น และพื้นที่อาศัยมีความจำกัด จึงต้องเปลี่ยนมาทำอาหารในครัวแบบปิด ที่ปริมาณควันน้อยกว่าเมื่อก่อน แต่ถ้าหากใครที่เคยชินกับครัวไทยแบบเดิม ก็สามารถต่อเติมห้องครัวแบบเปิดโล่งได้เพื่อตอบสนองการใช้งานได้หากมีพื้นที่มากพอ สำหรับใครที่พบปัญหาบ่อย ๆ ว่ามีคนในครอบครัวชอบลืมปิดเตา จนทำให้ไฟเกือบไหม้หลายรอบแล้ว การติดตั้ง Wireless Smoke Detector ก็จะเป็นตัวช่วยได้ดี โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถแจ้งเตือนได้ผ่านแอปพลิเคชัน เมื่อตรวจพบสารในควันมากเกินปกติ ช่วยลดความกังวลหากมีใครลืมปิดเตา ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

          นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งคู่กับ Wireless Gas Detector ที่สามารถแจ้งเตือนได้ทั้งที่ตัวเครื่องและแอปพลิเคชันหากพบปริมาณแก๊สมากกว่าปกติ โดยอุปกรณ์ทั้งสองชิ้นนี้ ไม่ได้ใช้ระบบ wifi จึงต้องงานใช้ร่วมกับ smart gateway ที่เป็นตัวกลางแปลงสัญญาณให้สามารถเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้ ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่อมีความรวดเร็วและประหยัดพลังงานได้มากกว่าแบบที่ใช้ wifi ด้วย

6.Digital Door Lock

           เพิ่มความปลอดภัยอีกขั้นด้วย digital doorlock ที่มีความแข็งแรง ทนทาน มาพร้อมกับความสะดวกสบาย เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวก ปลดล็อกได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว หมดปัญหาลืมพกกุญแจบ้านแล้วต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางหลายรอบไปได้เลย โดยตัวล็อกอัจฉริยะชิ้นนี้มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ทนต่อการตัดขาด ก้าวเดินอออกจากบ้านได้อย่างมั่นใจ พร้อมเตรียมรับมือกับเรื่องใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา โดยตัวล็อกอัจฉริยะถูกออกแบบให้เข้าได้กับบ้านหลากหลายแบบ กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม เป็นการพรางตัวป้องกันการโจรกรรมได้อีกทางหนึ่ง

           นอกจากนี้ยังมีการรับประกันหลังการใช้งานพร้อมมีที่มช่างมากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษา จึงมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้และมีคุณภาพอย่างแน่นอน สำหรับใครที่ต้องการอุปกรณ์เพื่อติดตั้ง ระบบความปลอดภัย แบบยุคใหม่ไม่ควรพลาด 

7.Smart gateway

           การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์กับแอปพลิเคชันจำเป็นต้องใช้ระบบเดียวกันเพื่อให้สื่อสารกันเข้าใจ และส่งผลให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอุปกรณ์อัจฉริยะบางชิ้นก็ใช้ระบบ Wi-Fi จึงไม่ต้องมีตัวกลางในการเชื่อมสัญญาณไปที่สมาร์ทโฟนเพื่อให้สั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน แต่อุปกรณ์บางอย่างก็ใช้สัญญาณระบบอื่นอย่างเช่น Zigbee  จึงต้องมีตัว Smart gateway เพื่อแปลงสัญญาณไปต่อกับ สมาร์ทโฟนได้ บางคนอาจจะคิดว่าอุปกรณ์ที่ใช้ระบบ Zigbee มีความยุ่งยาก ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่ม แต่ความจริงแล้วข้อดีของการใช้อุปกรณ์ Zigbee ก็มีอยู่ไม่น้อยเลย อย่างเช่น อุปกรณ์ Zigbee ที่ต่อกับแหล่งจ่ายไฟสามารถกระจายสัญญาณให้กับอุปกรณ์ชิ้นอื่น ๆ ได้ จึงทำให้สามารถทำงานในพื้นที่กว้างได้ดีกว่า ในขณะที่อุปกรณ์ Wi-Fi ต้องติดตั้ง router ตัวกระจายสัญญาณเพิ่ม เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่บริเวณกว้าง ตัวอุปกรณ์ Wi-Fiเองไม่สามารถกระจายสัญญาณได้ ถ้าใช้อุปกรณ์หลายชนิด Zigbee จะมีความเสียรมากกว่า Wi-Fi เพราะไม่แย่งสัญญาณกัน และ Zigbee ประหยัดพลังงานมากกว่า Wi-Fiเป็นต้น 

 

          เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็ลองเลือกดูว่าอุปกรณ์แบบไหน ใช้ระบบใดถึงจะเหมาะสำหรับการติดตั้งในบ้านเรา ซึ่งควรเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ มีการรับประกันและมีบริการหลังการขายที่ดีพอ หากใครสนใจต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูที่เว็บไซต์ของ smartsafetyservice ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความปลอดภัยที่พร้อมบริการติดตั้ง รับออกแบบ พร้อมจำหน่ายและจัดส่งสินค้า ด้านความปลอดภัย เป็นประโยชน์ต่อการเลือกอุปกรณ์ความปลอดภัยในบ้านอัจฉริยะ ที่จะช่วยให้การตัดสินของเราเป็นไปได้อย่างถูกต้องและมีความยั่งยืน